เกี่ยวกับสินมั่นคง - สินมั่นคงประกันภัย (SMK)

ประวัติ

บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านการบริการรับประกันวินาศภัยเป็นหลักเริ่มดำเนินธุรกิจ
ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2494 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 2 ล้านบาท ภายใต้ชื่อ บริษัท บ้วนฮงเซ้งประกันภัย จำกัด ต่อมาภายหลังได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น

บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน)

ดำเนินธุรกิจรับประกันวินาศภัย 4 ประเภท ได้แก่

ประกันภัยรถยนต์

ประกันอัคคีภัย

ประกันภัย
ทางทะเลและขนส่ง

ประกันภัยเบ็ดเตล็ด

บริษัทฯ ได้เพิ่มทุนอย่างสม่ำเสมอเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจประกันภัย ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท

และเมื่อพิจารณาในส่วนเงินกองทุนตามประกาศนายทะเบียนเรื่องการดำรงเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัยตามระดับความเสี่ยง
ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2554 ซึ่งได้กำหนดว่า ตั้งแต่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะต้องมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน
ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 140 โดยข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2559 บริษัทฯ มีอัตราส่วนดังกล่าวที่ร้อยละ 497.31 และบริษัทฯ ยังคงมีเงินกองทุน
ส่วนเกินกว่าที่กฏหมายกำหนดเป็นจำนวนถึง 5,832.66 ล้านบาท ถือเป็นเงินกองทุนส่วนเกินซึ่งสามารถรองรับการขยายงานในอนาคต

บริษัทฯ เป็นบริษัทประกันวินาศภัยที่รับประกันรถยนต์เป็นหลักและเป็นบริษัทฯ แรกที่ได้รับความไว้วางใจให้จดทะเบียน

ภายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปัจจุบันจัดอยู่ในห้าอันดับแรกของบริษัทฯ ที่มีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด

ประวัติบริษัท

2534 - 2537

2538 - 2540

2543

2545

2546 - 2547

2548 - 2549

2550 - 2551

2552

2553

2554

2555 - 2557

2558

2559

2560

2561

2562

2563

2564

2565

2534 - 2537

- ปี 2534 จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

- ปี 2535 ย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ที่อาคารสินมั่นคงประกันภัย ถนนศรีนครินทร์

- ปี 2537 จดทะเบียนแปรสภาพเป็น บริษัท มหาชน จำกัด

2538 - 2540

ปี 2538
- การร่วมทุนกับ Royal Insurance PLC ในปี 2538 บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ได้มีการเซ็นสัญญาร่วมทุนกับ Royal Insurance PLC. โดยเข้ามาร่วมถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ต่อมา Royal Insurance PLC. ได้ควบรวมกับบริษัท Sun Alliance Insurance และเปลี่ยนชื่อเป็น Royal & Sun Alliance ในปี 2549 กลุ่ม Royal & Sun Alliance ครองส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุด (ร้อยละ 13) ในธุรกิจ commercial line insurance ในประเทศอังกฤษ อีกทั้งมีส่วนแบ่งตลาดสูงเป็นอันดับที่ 3 ในธุรกิจประกันภัยส่วนบุคคลของประเทศอังกฤษ มีเบี้ยประกันภัยสุทธิรวมทั้งสิ้นประมาณ 5,484 ล้านปอนด์ เทียบเป็นจำนวนเงิน 387,790 ล้านบาท มีเครือข่ายสาขากว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานทั่วโลกทั้งสิ้นประมาณ 24,000 คน

ปี 2540
- ท่านกรรมการผู้จัดการ ได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติจากสถาบันผู้พิทักษ์สิทธิผู้บริโภค และสมาคม สหประชาชาติ ในฐานะที่นำองค์กรสู่ความเป็นผู้นำทางธุรกิจ มีการจัดวางโครงสร้างและแบบแผนในการพัฒนา บุคลากรที่ดี มีแนวทางในการบริหารและให้บริการที่ดี

2543

- ใช้ระบบ intranet เพื่อติดต่อสื่อสารภายในองค์กร
- เพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ www.smk.co.th ซึ่งลูกค้าสามารถซื้อกรมธรรม์และชำระเงินผ่านอินเทอร์เน็ตครบวงจรทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าเก่า
- เป็นรายแรกที่มีศูนย์ Call Center 1596 เบอร์เดียวทั่วไทย ที่ลูกค้าสามารถแจ้งได้ทั้งเรื่องอุบัติเหตุ
และการทำประกัน ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหนอำเภอใด

2545

- เป็นบริษัทประกันวินาศภัยแห่งแรกในประเทศที่ริเริ่มโครงการรับประกันเวลาเดินทางถึงที่เกิดเหตุภายใน 25 นาที ชื่อโครงการคือ SMK SPEED GUARANTEE 1
- เป็นบริษัทประกันวินาศภัยแห่งแรกในประเทศที่ริเริ่มโครงการรับประกันมาตรฐานระยะเวลา ซ่อมและคุณภาพ
การซ่อมรถยนต์ ชื่อโครงการคือ SMK SPEED GUARANTEE 2
- เพิ่มช่องทางให้อู่สามารถนำส่งข้อมูลการซ่อมรถยนต์ผ่านระบบ Internet Web Application
- นำระบบ Document Image Processing (DIP) และ กล้องดิจิตอล เข้ามาใช้ในงานสินไหม ในเขตกรุงเทพฯอย่างเต็มระบบ

2546 - 2547

ปี 2546
- เปิดตัวโครงการประกันอุบัติเหตุเอื้อสุข
- ได้ทดลองและทดสอบโครงการ SMK SPEED GUARANTEE 1 และ 2 ตามสาขาภูมิภาค
- ขยายการใช้กล้องดิจิตอลสำหรับงานด้านตรวจสอบอุบัติเหตุไปยังสาขาภูมิภาค

ปี 2547
- ขยายตลาดในส่วนที่เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น การประกันภัยอิสรภาพ
- ได้นำระบบ E-Agent มาใช้กับตัวแทน
- ขยายรูปแบบการประชาสัมพันธ์ธุรกิจ โดยใช้สื่อป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หลายแห่งในกรุงเทพฯ

2548 - 2549

ปี 2548
- ยกระดับมาตรฐานเวลาในทุกขั้นตอนของการให้บริการ
- ได้นำระบบ E-Agent มาใช้กับตัวแทน
- ขยายรูปแบบการประชาสัมพันธ์ธุรกิจ โดยใช้สื่อป้ายโฆษณาขนาดใหญ่หลายแห่งในกรุงเทพฯ

ปี 2549
- มีการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์เป็นครั้งแรก โดยมุ่งเน้นให้ทราบถึงคุณค่าของ Brand “มาเร็ว เคลมเร็ว ซ่อมเร็ว"
- เริ่มทดลองทำตลาดผ่านช่องทาง Telemarketing โดยเริ่มจากการนำเสนอขายผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจได้ง่าย เช่น กรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
- ย้ายศูนย์คอมพิวเตอร์สำรองจากสถานที่เดิมซึ่งเป็นอาคารเช่า มาไว้ที่อาคารสาขาเทพารักษ์ ซึ่งเป็นอาคารที่สร้างบนพื้นที่ทรัพย์สินของบริษัทฯ เอง

2550 - 2551

ปี 2550
- เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 ผลิตภัณฑ์ คือ ประกัน 3 คุ้ม และ ประกันตามใจ
- เริ่มพัฒนาระบบ CRM (Customer Relationship Management) เพื่อจะได้เข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้ดีที่สุด

ปี 2551
- ขยายตลาดประกันภัยมะเร็ง โดยกรมธรรม์ของบริษัทฯ มีจุดเด่นที่บริษัทฯ ให้ความคุ้มครองต่อเนื่องอัตโนมัติ จนถึงอายุ 65 ปี และหากเลือกทำประกันแบบครอบครัว บริษัทฯ จะให้ความคุ้มครองบุตรอายุ 1 – 22 ปีที่ยังไม่ได้สมรสฟรี โดยไม่จำกัดจำนวนบุตร
- ขยายการบริการด้านสินไหมควบคู่การขยายตลาดให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ อีกทั้งขยายช่องทางการจำหน่ายใหม่ไปยังห้างสรรพสินค้าและไฮเปอร์มาร์ท

2552

- บริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกันตามไมล์ เป็นประกันประเภท 1 เหมาะสำหรับผู้ที่ขับรถน้อย โดยใช้รถยนต์ไม่เกิน 70 กิโลเมตร/วัน หรือ เฉลี่ย 25,550 กิโลเมตร/ปี
- บริษัทฯ เป็น 1 ใน 15 สถาบันที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยให้เป็นสถาบันจัดอบรมและออกหนังสือรับรองการผ่านการอบรมตัวแทนประกันวินาศภัย เพื่อรองรับและพัฒนายกระดับมาตรฐานคนกลางประกันภัย โดยบริษัทฯ ได้จัดอบรมตัวแทนของบริษัทฯ ในปี 2552 จำนวน 55 ครั้ง ทั่วประเทศ มีตัวแทนผ่านการอบรมและได้รับการรับรองผ่านการอบรมจากบริษัทฯ จำนวนทั้งสิ้น 2,292 คน

2553

- บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามนโยบายการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนและสังคม โดยได้มอบหมายให้สำนักงานภาคของบริษัทฯ ทั้ง 4 สำนักงานภาคร่วมกับพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และพันธมิตรทางการค้าของบริษัทฯ ในแต่ละภาคจัดทำกิจกรรมดูแลสังคมในปี 2553 ตามภูมิภาคต่างๆ รวมทั้งบริษัทฯ ได้ร่วมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย
น้ำท่วมในเดือนตุลาคม 2553 เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านบาท โดยมอบผ่านทางครอบครัวข่าว 3 (ไทยทีวีสีช่อง 3)

2554

- บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมเดินวิ่งการกุศล มินิมาราธอน 60 ปี ขึ้นที่ สวนหลวง ร.9 กรุงเทพฯ โดยร่วมกับ พนักงาน ผู้บริหาร ลูกค้า คู่ค้า และ พันธมิตรทางการค้าของบริษัทฯ เพื่อนำรายได้จากการจัดกิจกรรมและบริจาคเงินสมทบทุนอีกส่วนหนึ่งช่วยเหลือโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร เพื่อเป็นการดูแลสังคมตามนโยบายของบริษัทฯ
- บริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกันสุขภาพ (ตามฟิต) เป็นประกันสุขภาพในรูปแบบใหม่ที่ส่งเสริมให้คนได้ออกกำลังกาย ยิ่งออกกำลังกาย ยิ่งฟิตมาก ยิ่งลดมาก บริษัทฯ มีส่วนลดเบี้ยให้กับลูกค้าสูงสุด 15% ทันที

2555 - 2557

ปี 2555
- บริษัทฯ ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกันซ่อมศูนย์ เป็นประกันประเภท 1 ที่ลูกค้าสามารถนำรถประกันที่เกิดเหตุเข้าซ่อมที่ศูนย์ซ่อมรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ ได้

ปี 2556
- บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและปรับปรุงการบริการเพื่อรองรับการเติบโตและการแข่งขันของธุรกิจ ซึ่งทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัลประกันภัยดีเด่นครบวงจร ประจำปี 2555 ประเภทบริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารงานดีเด่น อันดับ 3 จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยได้รับคัดเลือกจากจำนวนบริษัทประกันวินาศภัยทั้งสิ้น 64 บริษัท ซึ่งพิธีมอบรางวัลดังกล่าวได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2556 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

ปี 2557
- บริษัทฯ เปิดสาขาและสาขาย่อยเพิ่มขึ้นอีก 17 สาขา รวมมีทั้งสิ้น 171 สาขา สามารถให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ

2558

- บริษัทฯ ได้เพิ่มคุณค่าบริการให้ลูกค้าที่ซื้อประกันภัยรถยนต์ 2+ และ 3+ ถูกผิดรับเลย โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ค่าชดเชยพาหนะในระหว่างที่รถอยู่ระหว่างการจัดซ่อม ทั้งนี้จะได้รับค่าชดเชยจำนวนเงินไม่เกิน 2,000 บาทต่อปี
- บริษัทฯ ได้มีการพัฒนาระบบงานบนมือถือ (Mobile Application) เพื่ออำนวยความสะดวก เพิ่มประสิทธิภาพ และเชื่อมต่อตรงแบบ real-time (STP-Straight through Processing) กับระบบงานสินไหม โดยขยายการใช้งานโดยให้พนักงานตรวจสอบอุบัติเหตุและอู่ซ่อมรถในเครือข่ายใช้โดยมีชื่อเรียกว่า Surveyor App และ Garage App ทั้งพนักงานและอู่สามารถบันทึกผลสำรวจรายการและราคาประเมินความเสียหายแล้วส่งตรงเข้าฐานข้อมูล server ของบริษัทฯ ทันที
- บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบการชำเงินผ่าน Online Bill payment เพื่อให้ตัวแทนสามารถพริ้นท์ใบ pay-in นำไปชำระเงินที่ธนาคารและบันทึกตัดชำระประกันผ่านระบบได้ และยังสามารถตรวจสอบสถานะเบี้ยค้างของตนเองได้ด้วย
- บริษัทฯ ริเริ่มกิจกรรมบริจาคอุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องพยาบาลและเวชภัณฑ์ พร้อมอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน ภายใต้ชื่อโครงการ “สินมั่นคงอยากเห็นเด็กไทยสุขภาพดี” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีสุขภาพแข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย และมีห้องพยาบาลในโรงเรียนที่พร้อมด้วยอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ที่มีมาตรฐาน เพื่อรองรับนักเรียน ครู และบุคลากรของโรงเรียน สำหรับการรักษาพยาบาลในเบื้องต้นได้อย่างทั่วถึงยิ่งขึ้น

2559

- บริษัทฯ เพิ่มประสิทธิภาพและลดความผิดพลาดในการทำธุรกรรม ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านสื่อ Digital และ Line โดยทำธุรกรรมแบบ Online กับ Broker และ Finance
- บริษัทฯ ขยายการพัฒนาและใช้ Mobile Application ในการทำงานด้านสินไหม โดยให้อู่ในเครือและร้านกระจกส่งข้อมูลและรูปถ่ายเข้ามาแบบ Online ซึ่งช่วยลดความผิดพลาด และลดต้นทุนของคู่ค้า
- บริษัทฯ เพิ่มช่องทางการชำระเงินใหม่ๆ ผ่าน Payment Gateway เพื่อบริการลูกค้า
- บริษัทฯ ปรับปรุงเว็บไซต์ www.smk.co.th ให้มีความทันสมัย มีข้อมูลที่กระชับแต่ครบถ้วน ขั้นตอนน้อย สะดวกและง่ายต่อการใช้งานสำหรับอุปกรณ์อีเล็คโทรนิคส์ทุกชนิด
- บริษัทฯ เริ่มใช้งานระบบ New Motor ซึ่งเป็นระบบแกนหลัก พัฒนาบน Microsoft Technology โดยใน Phase ปี 2559 บริษัทฯ ได้เริ่มใช้งานสำหรับระบบรับแจ้งประกัน และระบบบริหารงานตัวแทน
- บริษัทฯ ลงทุนเพิ่ม Data storage ให้เพียงพอกับการรองรับการเติบโตของธุรกรรม และ Big Data ในอนาคต
- บริษัทฯ ปรับปรุงระบบงาน ณ จุดบริการลูกค้าตามห้างสรรพสินค้า ให้สะดวก รวดเร็ว และทันสมัย

2560

- บริษัทฯ ได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น SMK Health App สำหรับลูกค้า เพื่อบันทึกการออกกำลังกาย รับประทานอาหาร และประวัติสุขภาพ โดยระบบจะช่วยรวบรวม ประมวลผล เพื่อเลือกประกันสุขภาพที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกค้า
- ได้ร่วมกับ Startup ชั้นนำของประเทศอังกฤษ พัฒนา Mobile Application เพื่อรองรับ Telematics ทั้งแบบ Pay As You Drive และ Pay How You Drive ลูกค้าสามารถเห็นคะแนนการขับขี่ และระยะทางการเดินทาง เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและได้รับส่วนลดพิเศษ
- บริษัทฯ ได้ทำการลงทุนปรับปรุงระบบ Microsoft CRM เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการลูกค้า และรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า อีกทั้งยังรองรับช่องทางการขายแบบต่างๆ
- บริษัทฯ ได้ลงทุนซื้อโปรแกรมสร้าง Model คำนวณเบี้ยประกัน เพื่อเพิ่มเครื่องมือที่ทันสมัยให้กับทีมงานนักคณิตศาสตร์ประกันภัย
- บริษัทฯ ได้รับใบรับรองการทำธุรกรรมทาง Electronics ตามเกณฑ์ของสำนักงานคปภ. เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย
- บริษัทฯ ได้พัฒนารูปแบบกรมธรรม์ใหม่ตามแนวทาง Digital โดยทำเป็น E-Policy ซึ่งลดเวลาในการส่งกรมธรรม์ถึงมือลูกค้า และสามารถเปิดดูได้จาก Smart Phone โดย E-policy ของบริษัทฯจะมีลายมือชื่อ Electronic (Digital Signature) ซึ่งเป็นตัวแสดงหลักฐานว่าเป็นเอกสารของบริษัทฯ จริง ไม่สามารถปลอมแปลงได้
- บริษัทฯ ได้พัฒนาสื่อและช่องทางออนไลน์ของบริษัทฯ ให้สามารถตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของผู้ซื้อได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น รวมถึงได้ Launch ภาพยนตร์โฆษณา "ประกันสุขภาพตามฟิต" ยิ่งฟิตมาก เบี้ยประกันยิ่งลดมาก เป็นเรื่องแรกผ่านสื่อออนไลน์

2561

- บริษัทฯ ได้สมัครเข้าโครงการ Sandbox ของ คปภ. เพื่อทดลองการใช้งาน Application วัดพฤติกรรมการขับขี่ของลูกค้า เพื่อให้เกิดความยุติธรรมมากขึ้นในการคิดเบี้ยลูกค้า ช่วยเป็นข้อมูลในการปรับตัวให้ขับขี่ปลอดภัยขึ้น และเพิ่มโอกาสได้ส่วนลดพิเศษในการต่ออายุกรมธรรม์
- บริษัทฯ ได้ upgrade ระบบรับแจ้งเคลม โดยรองรับการแจ้งเหตุจาก smart phone ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ากดแจ้งตำแหน่งเกิดเหตุได้ในคลิกเดียว ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการไปถึงที่เกิดเหตุได้ตรงจุดและภายในกำหนดเวลา
- บริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทาง ส่ง E-Policy ผ่านทาง SMS เพื่อให้ลูกค้าได้รับกรมธรรม์แบบ Digital มากขึ้น ลูกค้าสามารถตรวจเช็คได้โดยง่ายจาก Smart Phone โดย E-policy ของบริษัทฯ จะมีลายมือชื่อ Electronic (Digital Signature) ที่ไม่สามารถปลอมแปลงได้
- บริษัทฯ ออกผลิตภัณฑ์ ประกันรถยนต์ตามไมล์ ยกกำลังสอง คืนสูงสุดได้ถึง 15% และประกันรถยนต์คนกรุง ที่ปกป้องรถจากทุกภัย และเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังมีประกันสุขภาพตามฟิต ตามก้าว พร้อมรับเบี้ยประกันคืนสูงสุด 20% หากออกกำลัง (ก้าวเดิน) ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด รวมทั้ง ประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัยแบบประหยัด สำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์)
- บริษัทฯ ได้ดำเนินงานด้านการกำกับดูแลกิจการและได้รับการรับรองเป็นแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (CAC-Thailand’s Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption)

2562

- บริษัทฯ พัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ SMK aLL เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล สามารถเข้าถึงบริการและสิทธิประโยชน์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยบริการที่ครบครัน
- บริษัทฯ พัฒนา Mobile Application และ Website ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงผลิดภัณฑ์และบริการ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ในราคาที่เข้าถึงได้ มีระบบคะแนนสะสม ที่จะช่วยสร้างความผูกพันและการมีส่วนร่วมในการร่วมทำกิจกรรมต่างๆ
- บริษัทฯ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกันรถยนต์คนดีฯ ..โปรไฟล์ยิ่งดี เบี้ยยิ่งถูก.. โดยที่เบี้ยประกันจะสอดคล้อง เหมาะสมกับข้อมูลของผู้ซื้อประกัน
- บริษัทฯ นำโครงการ Digital Transformation ในส่วนของการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่พันธมิตรคู่ค้าได้แก่ ตัวแทน อู่ซ่อมรถยนต์ ร้านอะไหล่ สามารถทำงานได้สะดวก รวดเร็ว ทำงานร่วมกันในลักษณะของ Eco-system
- บริษัทฯ ขยายการพัฒนาระบบการจัดการสินไหมบน Web Application Platform ช่วยให้ผู้เอาประกันสามารถเรียกค่าสินไหม เพื่อชดเชยความเสียหายได้รวดเร็ว รวมไปถึงมีความเป็นธรรมต่อผู้เอาประกันด้วย
- บริษัทฯ เริ่มต้นใช้ RPA (Robotic Process Automation) กับกระบวนการจัดเก็บเบี้ยประกันจากตัวแทนทั่วประเทศ กระบวนการการบริหารการขายของตัวแทน กระบวนการการรับชำระเบี้ยประกัน และกระบวนการส่งหนังสือหักภาษี ณ ที่จ่ายให้อู่ทั่วประเทศ เป็นต้น
- บริษัทฯ นำระบบขึ้นใช้งานบน Cloud เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการขยายบริการได้อย่างรวดเร็ว
- บริษัทฯ ปรับเปลี่ยนเครื่อง Server ของระบบหลัก (Core Insurance) ให้เป็น Technology แบบ HCI (Hyper Converged Infrastructure) สามารถรองรับการประมวลผลปริมาณรายการจำนวนมาก โดยใช้เวลาที่น้อยลง

2563

- บริษัทฯ พัฒนา Payment แบบใหม่ ทั้ง Payment Link , Prompt-pay หรือ QR code เป็นต้น
- บริษัทฯ พัฒนา Mobile Application และ WEB Application ให้กับตัวแทนใช้งานได้ ทั้งจากมือถือและ Computer Desktop เพื่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการแจ้งงานได้ทุกที่ ทุกเวลา สะดวกและรวดเร็ว และส่ง E-policy ให้ลูกค้าได้ทันที
- บริษัทฯ พัฒนา Application และ Website อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถเช็กราคา ซื้อประกันทาง Application และ Website ของบริษัทฯ ได้ เพื่อความง่ายในการใช้งาน
- บริษัทฯ ออกผลิตภัณฑ์ ประกันรถยนต์ตามเวลา, ประกันภัยการติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19), ประกันภัยไข้เลือดออก, ประกันสุขภาพคุ้มค่าและประกันสุขภาพเอกซ์ตรา
- บริษัทฯ มีโครงการปรับปรุงระบบการเงินและบัญชี โดยใช้ระบบ ERP ของ Microsoft Dynamics 365 เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลใหม่ๆ
- บริษัทฯ เตรียมความพร้อม เพื่อรองรับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งจะมีผลบังคับในเดือนพฤษภาคม 2564
- ในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด บริษัทฯ มีการปรับเปลี่ยน Infrastructure เพื่อรองรับการให้บริการของพนักงานจากที่บ้าน (Work From Home) ได้เกือบ 100%

2564

- บริษัทฯ ได้ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ ด้วยการปรับ Process ให้ Automate ใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อการทำงานของพนักงาน ลูกค้า และคู่ค้า
- บริษัทฯ นำ Chat Bot มาช่วยอำนวยความสะดวกในการสอบถาม สินค้าและบริการ จากลูกค้าบนหน้า Web site
- บริษัทฯ ได้เพิ่มช่องทางการตลาดแบบดิจิทัล โดยเน้นช่องทาง LINE ซึ่งเป็นช่องทางยอดนิยมในประเทศไทย และมีการทำการตลาดร่วมกับ AIS
- บริษัทฯ มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และมีการพัฒนา Application และ Web Site อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประสบการณ์ใหม่กับลูกค้า สามารถซื้อง่าย มีสินค้าให้เลือกเพิ่มขึ้น มีการแสดงข้อมูลเปรียบเทียบ สามารถชำระเงินค่าสินค้า และรับ e-policy ได้ทันที
- บริษัทฯ เตรียมการนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์รูปถ่าย เพื่อประเมินรายการความเสียหายและราคาค่าซ่อม
- บริษัทฯ เตรียมโครงการข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมในการซื้อของลูกค้า
- บริษัทฯ ได้ยกระดับการรักษาความปลอดภัยโดยมีการปรับปรุงตามมาตรฐาน และมีการส่งเจ้าหน้าที่เข้ารับการอบรมในหลักสูตร cyber security อย่างต่อเนื่อง

2565

- บริษัทฯ เปิดบริการใหม่ VDO-Claim เพื่อให้ลูกค้าสามารถทำเคลมผ่านสมาร์ทโฟนได้ด้วยตัวเอง ผ่าน VDO-Call เพื่อให้ทำการประเมินและออกเอกสารสินไหมแบบ Online
- บริษัทฯ พัฒนา Mobile Application, Website และ LINE อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ในราคาที่มีส่วนลดพิเศษ ตลอดจนมีระบบคะแนนสะสม และใช้คะแนนเป็นส่วนลดซื้อประกัน โดยมีการขยายผลิตภัณฑ์ในส่วนประกันภัยเบ็ดเตล็ด ท่องเที่ยว และอัคคีภัย
- บริษัทฯ พัฒนาโครงการ Digital Transformation ให้กับตัวแทน ทั้ง Mobile Application และ Web Application เพื่อสอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ รวมทั้งการแจ้งงาน ได้ทุกที่ ทุกเวลา สะดวก รวดเร็ว และส่งกรมธรรม์ E-policy ให้ลูกค้าได้ทันที
- บริษัทฯ เพิ่มช่องทางการตลาดแบบดิจิทัล โดยเน้นช่องทาง LINE และ Facebook ซึ่งเป็นช่องทางยอดนิยมในประเทศไทย
- บริษัทฯ มีโครงการปรับปรุงระบบการเงินและบัญชี เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลใหม่ๆ เช่น IFRS17
- บริษัทฯ ขึ้นระบบงานที่รองรับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)
- บริษัทฯ พัฒนาโครงการ Non Motor ให้รองรับธุรกิจมากขึ้น โดยปรับระบบเพิ่มเติม เพื่อบริการงานสินไหมให้สะดวก รวดเร็ว
- บริษัทฯ เตรียมนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์รูปถ่ายเพื่อประเมินรายการความเสียหายและราคาค่าซ่อม
- บริษัทฯ เตรียมโครงการข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมในการซื้อของลูกค้า โดยใช้ Power BI ในการวิเคราะห์ข้อมูล

BOARD OF DIRECTOR
( โครงสร้างองค์กร )

Investor
( ข้อมูลนักลงทุน )

Agent
( ตัวแทนและคู่ค้า )

Career
( ร่วมกับเรา )

Branch
( สาขา )