- ให้บริษัทจัดเก็บ เป็นวิธีการที่ลูกค้าส่วนมากพึงพอใจที่สุด เพราะลูกค้าไม่ต้องออกไปนอกบ้าน แต่จะต้องรอรอบเส้นทางการวิ่งของพนักงานจัดเก็บ
- โอนเงินผ่าน Bill Payment เป็นวิธีที่สะดวกเนื่องจากไม่ต้อง แฟกซ์มา
- โอนเงินผ่านบัญชี และแฟกซ์รายละเอียดการโอนเงินมาให้ เป็นวิธีการที่สะดวกที่สุด เนื่องจากไม่ต้องรอให้พนักงานจัดเก็บวิ่งส่งให้ลูกค้า
ต้องดูที่ส่วนได้เสีย
- เจ้าของโฉนดเท่านั้นจึงมีสิทธิทำประกันสิ่งปลูกสร้าง
- ผู้เช่า มีสิทธิทำ เฟอร์นิเจอร์,สต๊อก,เครื่องจักร ได้
ผู้เอาประกันสามารถทำต่ำกว่ามูลค่าสินค้าได้ แต่ทั้งนี้ผู้เอาประกันภัย จะต้องรับความเสี่ยงภัยเอง (Self Insured) โดยหากเกิดความเสียหายบริษัทฯ จะชดใช้ค่าสินไหมจากจำนวนที่เอาประกัน ต่อมูลค่าสินค้าที่แท้จริงในการขนส่งเที่ยวนั้น
บริษัทฯ อาจดำเนินการโดย โอนเงินเข้าบัญชีผู้เอาประกันภัย ตามสำเนาหน้าสมุดบัญชีที่ได้จัดส่งไว้ให้กับบริษัท ภายในวันและเวลาที่นัดหมาย หรือ
บริษัทฯ อาจจัดส่งเช็คค่าสินไหมให้ผู้เอาประกันภัยทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้กับบริษัท ภายในวันและเวลาที่นัดหมาย
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
กรณีบริษัทฯ สำรวจภัยเอง ผู้เอาประกันภัยต้องจัดส่ง เอกสารต่างๆให้บริษัท โดยตรง หรือ ทางไปรษณีย์ ดังนี้
- หนังสือเรียกร้องค่าเสียหาย / ใบเสร็จรับเงินต่างๆ
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้เอาประกันภัย / หรือ ผู้รับผลประโยชน์ (กรณีบุคคลธรรมดา)
- สำเนาทะเบียนบ้านของผู้เอาประกันภัย / หรือผู้รับผลประโยชน์
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นนิติบุคคล กรณีบริษัทฯจ้างบริษัทสำรวจภัย บริษัทสำรวจภัยนั้นจะเป็นผู้รวบรวมเอกสารจากผู้เอาประกันภัย จัดส่งให้บริษัทฯ
การแจ้งเหตุสามารถโทรเข้าบริษัทฯ โดยตรง ที่ฝ่ายอัคคีภัย โทร 0-2378-7000 ต่อ 7018, 8156, 7033 หรือ Call Center โทร 1596 หรือ ติดต่อผ่านตัวแทน หรือ นายหน้าทีทำประกัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ หรือ บริษัท สำรวจภัยจะออกสำรวจความเสียหาย ในเขตกรุงเทพใช้ระยะเวลาประมาณ 1 วัน ส่วนในเขตปริมณฑล และต่างจังหวัดภายใน 1-2 วันทำการ
***กรณีเบิกค่ารักษา***
1) กรณีเบิกค่ารักษาผู้ป่วยนอก OPD บริษัทฯ ใช้ระยะเวลาในการชดใช้ค่าสินไหมภายใน 7 วันทำการนับจากได้รับเอกสารเบิกค่าสินไหมครบถ้วน เรียบร้อยจากผู้เอาประกันภัย
2) กรณีผู้ป่วยใน IPD บริษัทฯ ใช้เวลาในชดใช้ค่าสินไหมภายใน 30 วันทำการนับจากได้รับเอกสารการเบิกค่าสินไหมครบถ้วนเรียบร้อยจากผู้เอาประกันภัย
***กรณีสูญเสียอวัยวะ / ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ หรือเสียชีวิต***
บริษัทฯ ใช้เวลาในการชดใช้ค่าสินไหมภายใน 30 วันทำการนับจากได้รับเอกสารเบิกค่าสินไหมครบถ้วนเรียบร้อยจากผู้เอาประกันภัย
บริษัทฯ ใช้เวลาในการชดใช้ค่าสินไหมภายใน 7 วัน ทำการนับจากวันที่ได้ตกลงค่าสินไหมกับผู้เอาประกันภัยแล้ว
ลูกค้าสามารถโทรเข้าบริษัทฯ โดยตรง ที่เบอร์โทร 1596 หรือ โทร 0-2378-7029 หรือติดต่อผ่านตัวแทน หรือนายหน้า เพื่อนัดหมายวันเวลาออกตรวจสอบความเสียหาย จากนั้นบริษัทฯ หรือ บริษัทสำรวจภัย จะออกตรวจสอบความเสียหาย ถ่ายภาพความเสียหาย และขอเอกสารประกอบการเบิกค่าสินไหมต่อไป
กรณีบริษัทฯ สำรวจภัยเอง ผู้เอาประกันภัยต้องจัดส่ง เอกสารต่างๆให้บริษัท โดยตรง หรือ ทางไปรษณีย์ หรือ e-mail ดังนี้
- กรมธรรม์ประกันภัยต้นฉบับ หรือสำเนากรมธรรม์ (แล้วแต่กรณี)
- บันทึกประจำวันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ (กรณีมีการโจรกรรมหรือเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 3)
- ใบเสนอราคาหรือใบประเมินการซ่อมทรัพย์สินที่เสียหายนั้นๆ
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นนิติบุคคล
- สำเนาบัตรประชาชนของผู้เอาประกันภัย
- เอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสูญเสีย หรือ ความเสียหายของทรัพย์สินนั้น ๆ (ถ้ามี)
กรณีบริษัทฯจ้างบริษัทสำรวจภัย บริษัทสำรวจภัยนั้นจะเป็นผู้รวบรวมเอกสารจากผู้เอาประกันภัย จัดส่งให้บริษัทฯ
*** กรณีบริษัทฯ สำรวจภัยเอง ***
ผู้เอาประกันภัยจัดส่งเอกสารการเบิกค่าสินไหมให้บริษัทฯ ทางไปรษณีย์ หรือ e-mail หรือติดต่อที่บริษัทฯ โดยตรง ดังนี้
-Invoice - Packing list - B/L (Air Waybill, Truck Bill)
- Wharf Survey, D/O, Claim Bill
- สำเนาโต้ตอบระหว่างผู้เอาประกันภัย และผู้ขนส่ง
*** กรณีจ้างบริษัทสำรวจภัย ***
บริษัทสำรวจภัย จะเป็นผู้รวบรวมเอกสารจากผู้เอาประกันภัยจัดส่งให้บริษัทฯ
***กรณีลูกค้าโทรเข้าบริษัทฯ โดยตรง หรือ ผ่านตัวแทน หรือ นายหน้า***
1) ติดต่อโทร 1596 เพื่อนัดหมายวันเวลาออกตรวจสอบความเสียหาย
2) บริษัท / บริษัทสำรวจภัย ออกตรวจสอบความเสียหายถ่ายภาพความเสียหาย และขอเอกสารประกอบการเบิกค่าสินไหม
*** กรณีผ่านบริษัทฯ สำรวจภัยที่ระบุในกรมธรรม์***
1) บริษัทสำรวจภัยนัดหมายวันเวลออกตรวจสอบความเสียหาย
2) บริษัทสำรวจภัย ออกตรวจสอบความเสียหาย ถ่ายภาพความเสียหาย และขอเอกสารประกอบการเบิกค่าสินไหม
บริษัทฯ จะดำเนินการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ดังนี้
1) การโอนเงินเข้าบัญชีผู้เอาประกันภัย บริษัทฯ จะโอนเงินเข้าบัญชีตามสำเนาหน้าสมุดบัญชีที่ได้จัดส่งให้กับบริษัท หรือ โอนเงินให้ผู้ทรงสิทธิตามกรมธรรม์ ภายในวันเวลาที่ได้นัดหมาย
2) การส่งทางไปรษณีย์ บริษัทฯ จะจัดส่งเช็ค/ ดร๊าฟค่าสินไหมไปตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้กับบริษัทฯ หรือนำส่งให้ผู้ทรงสิทธิตามกรมธรรม์ ภายในวันเวลาที่ได้นัดหมาย
ผู้เอาประกันภัยจัดส่งเอกสารการเบิกค่าสินไหมต้นฉบับให้บริษัทฯ ทางไปรษณีย์ หรือติดต่อที่บริษัทฯ โดยตรง ดังนี้
- ใบเสร็จรับเงินตัวจริง
- ใบรับรองแพทย์ตัวจริง
- สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน
- สำเนาบันทึกประจำวันทางตำรวจ (กรณีถูกทำร้ายร่างกาย)
- สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคาร
***กรณีสูญเสียอวัยวะ / ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ***
ผู้เอาประกันภัย หรือทายาทนำเอกสารการเบิกค่าสินไหมติดต่อที่“บริษัทฯ โดยตรงเท่านั้น”
- สำเนาบันทึกประจำวันการเกิดเหตุ
- สำเนาเวชระเบียนประวัติการรักษาของโรงพยาบาล
- ภาพถ่ายอวัยวะที่สูญเสียหรือทุพพลภาพ
- สำเนาบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้เอาประกัน
***กรณีเสียชีวิต***
ผู้รับผลประโยชน์นำเอกสารการเบิกค่าสินไหมติดต่อที่ “บริษัทฯ โดยตรงเท่านั้น”
- สำเนาใบมรณะบัตร
- สำเนารายงานชันสูตรพลิกศพ ด้านหน้า ด้านหลัง พร้อมลงนามรับรองจากแพทย์
- สำเนาบันทึกประจำวันทางตำรวจ
- สำเนาใบรับรองการตายพร้อมลงนามรับรองจากแพทย์
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และทะเบียนบ้านของผู้เอาประกัน และผู้รับผลประโยชน์
*** กรณีเบิกค่ารักษา***
1) การโอนเงินเข้าบัญชีผู้เอาประกันภัย บริษัทฯ จะโอนเงินเข้าบัญชีตามสำเนาหน้าสมุดบัญชีที่ได้จัดส่งให้กับบริษัท ภายในวันเวลาที่ได้นัดหมาย
2) การส่งทางไปรษณีย์ บริษัทฯ จะจัดส่งเช็คค่าสินไหมไปตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้กับบริษัทฯ ภายในวันเวลาที่ได้นัดหมาย
ผู้เอาประกันภัย หรือทายาท สามารถติดต่อขอรับเช็คค่าสินไหมที่บริษัทฯ โดยตรงตามวันเวลานัดหมาย
กรณีเข้าใช้บริการโรงพยาบาลในเครือข่าย ผู้เอาประกันสามารถแสดงบัตรสมาชิกเพื่อใช้บริการได้ทันที โดยในการรับรักษาพยาบาล
กรณีค่ารักษาพยาบาลเกินวงเงินคุ้มครอง ส่วนที่เกินวงเงินคุ้มครองผู้เอาประกันต้องรับผิดชอบชดใช้เอง
กรณีเข้าใช้งานบริการโรงพยาบาลนอกเครือข่าย ผู้เอาประกันเข้ารักษาโดยต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อน และนำเอกสารมาตั้งเบิกค่าสินไหม โดยผู้เอาประกันต้องจัดส่งเอกสารการเบิกทางไปรษณีย์ หรือติดต่อที่สาขาของบริษัทฯ
กรณีต้องการปรึกษาการเข้ารับการรักษาพยาบาล สำหรับประกันสุขภาพ ประกันโรคมะเร็ง กรุณาติดต่อโทร 0-2378-7027 หรือ 0-2378-7124
ส่วนประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล และประกันภัยเดินทาง กรุณาติดต่อ โทร 0-2378-7024 หรือ 0-2378-7028
บริษัทฯ ใช้เวลาในการชดใช้ค่าสินไหมภายใน 30 วัน ทำการนับจากได้รับเอกสารการเบิกค่าสินไหมครบถ้วน เรียบร้อยจากผู้เอาประกันภัย
บริษัทฯ อาจดำเนินการโดย โอนเงินเข้าบัญชีผู้เอาประกันภัย ตามสำเนาหน้าสมุดบัญชีที่ได้จัดส่งไว้ให้กับบริษัท ภายในวันและเวลาที่นัดหมาย หรือ บริษัทฯ อาจจัดส่งเช็คค่าสินไหมให้ผู้เอาประกันภัยทางไปรษณีย์ ตามที่อยู่ที่ได้แจ้งไว้กับบริษัท ภายในวันและเวลาที่นัดหมาย
เมื่อตกลงจำนวนค่าสินไหมและเซ็นหนังสือสัญญาประนีประนอมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกันเรียบร้อยแล้ว บริษัทฯ จะชดใช้ค่าสินไหมโดยแบ่งเป็น
- ค่าสินไหมทดแทนตั้งแต่ 1-100,000 บาท จ่ายภายใน 7 วันทำการ
- ค่าสินไหมทดแทนตั้งแต่ 100,001 บาท ขึ้นไป จ่ายภายใน 15 วันทำการ
2.1 กรณีผู้เอาประกันจัดซ่อมรถเอง (สำหรับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ) ผู้เอาประกันภัยนำเอกสารติดต่อที่บริษัทโดยตรง
- ใบเสร็จรับเงินตัวจริง, หลักฐานใบสั่งซ่อม, หลักฐานใบเสนอราคา พร้อมการคุมราคาของพนักงานประเมินราคาของบริษัท ฯ, รูปถ่ายขณะจัดซ่อม และรถประกันที่จัดซ่อมเสร็จแล้ว
2.2 กรณีความเสียหายต่อร่างกาย (สำหรับประกันภัยภาคสมัครใจและภาคบังคับ) ผู้ได้รับบาดเจ็บนำเอกสารติดต่อที่บริษัทโดยตรง
- ใบเสร็จรับเงินตัวจริงจากโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาล หรือหลักฐานการแจ้งหนี้เกี่ยวกับการรักษาพยาบาล,สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือหลักฐานอื่นใดที่ทางราชการเป็นผู้ออกที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าผู้มีชื่อในหลักฐานนั้นเป็นผู้ประสบภัยแล้วแต่กรณี
2.3 กรณีความเสียหายต่อชีวิต (สำหรับประกันภัยภาคสมัครใจและภาคบังคับ) ทายาทนำเอกสารติดต่อที่บริษัทโดยตรง
- สำเนาใบมรณะบัตร, สำเนาบันทึกประจำวันในคดีของพนักงานสอบสวน หรือหลักฐานอื่นที่แสดงว่าผู้นั้นถึงแก่ความตายเพราะการประสบภัยจากรถ
ระยะเวลาการพิจารณาจ่ายค่าสินไหม มีดังต่อไปนี้
1- 10,000 บาท จ่ายทันที
10,001 - 50,000 บาท นัดจ่ายภายใน 7 วัน
50,001 - 100,000 บาท นัดจ่ายภายใน 10 วัน
100,001 บาท ขึ้นไป นัดจ่ายภายใน 14 วัน
***โอนเงินเข้าบัญชีผู้เอาประกันภัย (ยกเว้น กรณีเสียชีวิต)***
1. บริษัท ฯ ขอสำเนาบัญชีธนาคารของผู้เอาประกันที่ต้องการให้โอนเงินเข้าบัญชี
2. บริษัท ฯ นำเงินเข้าบัญชีตามวันเวลานัดหมาย
***ส่งทางไปรษณีย์ (ยกเว้น กรณีเสียชีวิต)***
1. บริษัท ฯ ขอที่อยู่ของผู้เอาประกันที่ต้องการให้จัดส่ง
2. จัดส่งเช็คค่าสินไหมให้ผู้เอาประกันภัยตามวันเวลานัดหมาย
***กรณีสูญเสียอวัยวะ/ทุพพลภาพจากอุบัติเหตุหรือเสียชีวิต***
1. ผู้เอาประกันภัย หรือ ทายาท ติดต่อขอรับเช็คค่าสินไหมที่บริษัท ฯ โดยตรงตามวันเวลานัดหมาย
***กรณีจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น 4 ข้อ***
ระยะเวลาในการขอรับค่าสินไหมทดแทน
1. จ่ายภายใน 7 วัน นับแต่วันรับคำร้องขอ (ม.25)
2. จ่ายเบื้องต้นไม่เกิน 30,000.-บาท กรณีบาดเจ็บ (ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 12)
3. จ่ายเบื้องต้นไม่เกิน 35,000.-บาท กรณีเสียชีวิต, สูญเสียชีวิต , สูญเสียอวัยวะ , ทุพพลภาพถาวร (ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 12)
4. จ่ายเบื้องต้นไม่เกิน 65,000.-บาท กรณีบาดเจ็บ ต่อมาเสียชีวิตภายหลัง (ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 12)
***กรณีจ่ายส่วนเกินเบื้องต้น 4 ขั้นตอน***
1. กรณีบาดเจ็บ จ่ายส่วนเกินให้ครบ 80,000.- บาท ตามใบเสร็จรับเงินของโรงพยาบาล + สถานีอนามัย
2. กรณีเสียชีวิต,ทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง , ทุพพลภาพถาวร สูญเสียอวัยวะ จ่ายให้ครบ 500,000 บาท
3. กรณีบาดเจ็บ ต่อมาเสียชีวิตภายหลัง จ่ายค่าบาดเจ็บตามใบเสร็จรับเงินไปแล้วเท่าไร ต้องจ่ายเพิ่มให้ครบ 500,000.-บาท
4. การสูญเสียอวัยวะ
4.1 สูญเสียมือ 2 ข้าง ตั้งแต่ข้อมือ หรือแขน 2 ข้าง หรือเท้า 2 ข้าง ตั้งแต่ข้อเท้า หรือขา 2 ข้าง หรือสายตา 2 ข้าง (ตาบอด) อย่างใดอย่างหนึ่งรวมกันตั้งแต่ 2 กรณีขึ้นไป ไม่เกิน 500,000 บาท
4.2 สูญเสียมือ 1 ข้างตั้งแต่ข้อมือ หรือแขน 1 ข้าง เท้า 1 ข้าง ตั้งแต่ข้อเท้า หรือขา 1 ข้าง หรือสายตา 1 ข้าง (ตาบอด) อย่างใดอย่างหนึ่งรวมกันตั้งแต่ 2 กรณีขึ้นไป ไม่เกิน 500,000 บาท
4.3 หูหนวก เป็นใบ้ หรือเสียความสามารถในการพูดหรือลิ้นขาด สูญเสียอวัยวะสืบพันธุ์ หรือความสามารถในการ สืบพันธุ์ จิตพิการอย่างติดตัว (โรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือนอย่างติดตัว) ไม่เกิน 250,000 บาท
4.4 สูญเสียนิ้วตั้งแต่ข้อนิ้วขึ้นไป ไม่ว่านิ้วเดียวหรือหลายนิ้ว ไม่เกิน 200,000 บาท
5. ค่าชดเชยการรักษาตัว (ผู้ป่วยใน) 200 บาท / วัน ไม่เกิน 20 วัน ไม่เกิน 4,000 บาท
6. จำนวนเงินคุ้มครองสูงสุดสําหรับรายการข้อ 1,2,3,4 และ 5 รวมกันต้องไม่เกิน 504,000 บาท
7. ต้องพิสูจน์แล้วว่าการเกิดเหตุ ผู้ขับขี่รถประกัน เป็นฝ่ายผิดก่อนจึงจะจ่ายส่วนเกินเบื้องต้นได้ แต่ถ้ามีประกันภัยทั้งสองฝ่าย ไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิดเข้าหลักการสำรองจ่าย
***Call center เบอร์โทร 1596***
1. บริษัทฯ ออกตรวจสอบการเกิดเหตุ ณ สถานที่ที่ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ภายใน 20 นาที นับตั้งแต่เวลาที่ลูกค้าวางสาย ตามโครงการ Speed Guarantee 1 ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล หากเกิน 20 นาที บริษัทฯ จะชดเชยกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลมูลค่า 100,000 บาทฟรี
2. เมื่อพนักงานตรวจสอบและประเมินความเสียหายเสร็จ พนักงานจะออกเอกสารรับรองความเสียหายของทรัพย์สินให้แก่ผู้เอาประกันภัย(ใบเคลม)
3. ผู้เอาประกันภัย นำใบเคลมให้อู่เพื่อดำเนินการซ่อม
***อู่ในเครือ (สำหรับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ)***
1. ผู้เอาประกันนำรถเข้าแจ้งเคลมอู่ในเครือ
2. เมื่อเจ้าหน้าที่อู่ตรวจสอบและประเมินความเสียหายเสร็จ เจ้าหน้าที่อู่จะออกเอกสารหลักฐานการรับรถเข้าซ่อมให้แก่ผู้เอาประกันภัย(ใบรับรถเข้าซ่อม)
***Smart Phone – SMK Speed App (สำหรับประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ)***
1. ผู้เอาประกันแจ้งเคลมผ่าน Smart phone บันทึกรายละเอียดตามที่กำหนด
2. บริษัทฯ ตรวจสอบความคุ้มครอง และประเมินรายการความเสียหาย
3. ผู้เอาประกันรับเอกสารรับรองความเสียหายของทรัพย์สิน(ใบเคลม)เพื่อเป็นหลักฐานในการจัดซ่อมรถยนต์ผ่าน Smart phone
***กรณีรถหาย***
1. ติดต่อ 1596
การเคลมประกันภัยรถยนต์แบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่
ค่าเสียหายส่วนแรก คือ ค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งเอง เช่น ในการประกันภัยรถยนต์มีการกำหนดความเสียหายส่วนแรกไว้ที่ 2,000 บาท/ครั้ง ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้นในแต่ละครั้ง หากความเสียหายเท่ากับ 2,000 บาทหรือน้อยกว่า จะไม่ได้รับการชดเชยจากบริษัทประกันภัย แต่ผู้เอาประกันต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง หากความเสียหายเท่ากับ 3,000 บาท ผู้เอาประกันจะจ่ายเพียงเพียง 2,000 บาทเท่านั้น ส่วนบริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบส่วนที่เพิ่มขึ้น 1,000 บาทเอง
ใบเคลมที่เรารู้จักกันนั้น บริษัทประกันภัย มีเรียกชื่อเป็นทางการว่า "ใบรายการความเสียหาย หรือ ใบรับรองความเสียหาย" เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นไม่ว่าจะมีคู่กรณีหรือไม่ก็ตาม บริษัทประกันภัยจะออกใบเคลมให้ เพื่อนำไปแสดงกับศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมว่า บริษัทประกันภัยจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถของผู้เอาประกัน
สำหรับใบเคลมนั้นจะมีอายุไม่เกิน 2 ปีนับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ซึ่งหมายความว่า ผู้เอาประกันภัยสามารถนำรถเข้าซ่อมได้ภายในช่วงระหว่างเวลา 2 ปี แต่สินมั่นคงฯ อยากแนะนำว่า ภายหลังจากเกิดอุบัติเหตุและได้รับใบเคลมมาแล้ว ควรนำรถเข้าซ่อมที่ศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมทันทีหรืออย่างช้าภายใน 15 วัน เพราะการปล่อยความเสียหายให้เกิดขึ้นไว้นาน อาจมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายเกินกว่ารายการที่ระบุไว้ในใบเคลมได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดสนิมขึ้นตามรอยของการเฉี่ยวชน ซึ่งกรณีนี้ บริษัทฯ จะรับผิดชอบเฉพาะความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุเท่านั้น และจะทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้ด้วยตัวเอง