ข่าวสารและบทความ

ประกันรถยนต์ : เช็ครถยนต์..ก่อนไปสัมผัสอากาศหนาว

ประกันรถยนต์ : เช็ครถยนต์..ก่อนไปสัมผัสอากาศหนาว

 

ช่วงปลายปีเป็นช่วงฤดูหนาวทำให้หลายพื้นที่มีอุณหภูมิลดลง ธรรมชาติที่สวยงามในช่วงนี้ทำหลายคนเลือกเดินทางท่องเที่ยวไปสัมผัสอากาศหนาวเย็นกัน ซึ่งอากาศที่เย็นอาจส่งผลต่อทัศนวิสัยการขับขี่ เและระบบการทำงานของเครื่องยนต์ได้ สินมั่นคง ประกันรถยนต์ จึงมีคำแนะนำสำหรับใครที่ขับรถเดินทางไปในที่อากาศหนาวเย็น มาฝากดังนี้

 

 

 

 

1. ควรวอร์มเครื่องยนต์ก่อนเดินทาง

เพื่อให้เครื่องยนต์ น้ำมันหล่อลื่น และชิ้นส่วนต่างๆ นั้นพร้อมทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ป้องกันการสึกหรอ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ของเรา ในที่อากาศหนาวจัดต่ำกว่า 5 องศาลงไป ควรเปิดสวิตซ์กุญแจให้นานหน่อย ก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ ควรจะเหยียบคลัทช์ช่วยในการสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วย เมื่อเครื่องยนต์ติดแล้วควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเครื่องไว้ประมาณ 15 นาทีเป็นอย่างน้อยให้เครื่องร้อน เนื่องจากอากาศหนาวจัดทำให้น้ำมันเครื่องเกิดอุดตันได้ 


2. เช็คกระจกรถให้สะอาด

ทั้งกระจกหน้า กระจกหลัง และกระจกมองข้าง เพื่อช่วยทัศนวิสัยในการขับขี่ เพราะเวลามีหมอกลงจัดสิ่งสกปรก จะทำให้เกิดเป็นคราบ ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน


3. ไล่ความชื้น

ใช้น้ำมันไล่ความชื้น Sonax พ่นในห้องเครื่องบริเวณขั้วไฟหรือสายไฟให้ทั่ว เพื่อป้องกันความชื้น และช่วยไล่หนูได้ เพราะหนูจะเข้าไปกัดสายไฟได้ เนื่องจากห้องเครื่องยนต์มีอุณหภูมิที่อุ่นสบายกว่าภายนอก หนูจะไม่ชอบกลิ่นเหม็นของน้ำมัน Sonax


4. ตรวจสอบแบตเตอรี่

ในที่อากาศเย็นมากๆ จะลดความสามารถในการสตาร์ท ควรตรวจสอบแบตเตอรี่ และเปลี่ยนเมื่อกำลังไฟในการสตาร์ทขณะเครื่องเย็นไม่เพียงพอ พร้อมมั่นตรวจเช็คขั้วแบตเตอรี่ว่าหลวมหรือมีขี้เกลือหรือเปล่า


5. ดูแลที่ปัดน้ำฝนกระจกหน้า

ตรวจเช็คใบปัดน้ำฝน อุณหภูมิที่เย็นลงอาจทำให้ใบปัดน้ำฝนมีสภาพแข็งเปราะบวกกับสิ่งสกปรก ทำให้เวลามีหมอกการปัดไล่ความเย็นที่ติดกระจกลดลงควรเปลี่ยนใหม่หรือใช้น้ำอุ่นเช็ดให้สะอาด


6. ยางรถยนต์

อุณหภูมิที่เย็นอาจทำให้ความดันลมยางลดลง ดังนั้นต้องมั่นใจว่ายางมีการเติมลมอย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น และช่วยยืดอายุการใช้งานของยางได้ และอย่าลืมตรวจเช็คการสึกหรอของดอกยางด้วย


 

 

7. สายพานและท่อ

อุณหภูมิที่เย็นจัดอาจส่งผลให้สายพานฉีกขาดหรือแตกใช้งานไม่ได้  ในช่วงของการเปลี่ยนฤดจึงควรมีการตรวจสอบ และเปลี่ยนสายพานหากจำเป็น


8. เช็คระบบไล่ฝ้า

ฝ้าที่กระจกรถด้านนอก เกิดจากอุณหภูมิภายนอกสูงกว่าภายใน และฝ้าที่กระจกด้านในเกิดจากอุณหภูมิภายในรถสูงกว่าภายนอก สำหรับการตรวจเช็คระบบไล่ฝ้าก็ทำได้ด้วยการทดลองเปิดใช้งานระบบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตรวจดูว่าระบบทำงานปกติหรือไม่ ถ้ามีจุดใดเสียก็ให้รีบซ่อมแซม เพื่อความปลอดภัย
 

 

9. ดูระบบเบรก

ก่อนขับรถทุกครั้งการตรวจเช็คผ้าเบรกกับน้ำมันเบรกคือสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เริ่มด้วยการดูผ้าเบรกว่า เหลือมากน้อยขนาดไหน ต่อมาคือการดูจานเบรกว่าสึกลึกลงไปเท่าใดแล้ว รวมถึงสังเกตลักษณะของจานเบรกว่ามีความคดหรือไม่ สิ่งสุดท้ายคือดูน้ำมันเบรกว่าเหลือเท่าไร ถ้าน้อยก็ให้เติมลงไป และหากเป็นไปได้ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกปีละครั้งเพื่อเป็นการไล่ความชื้น และทำให้การเบรกมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดเวลา


10. ตรวจเช็คระบบสัญญาณไฟ

ทั้งไฟเลี้ยว ไฟเบรก และไฟตัดหมอก เพราะในช่วงฤดูหนาวที่อาจมีหมอกลงจัดในบางช่วง ทัศนวิสัยการมองเห็นจะลดน้อยลงอย่างมาก ซึ่งถ้าไฟต่างๆ ที่กล่าวมาเกิดชำรุดใช้งานไม่ได้ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขึ้นอย่างไม่คาดคิด ดังนั้นผู้ขับขี่ควรตรวจสอบและเปลี่ยนหลอดไฟให้สว่าง ให้ใช้งานได้อยู่เสมอ


11. ไม่จอดรถบนไหล่ทาง

การจอดรถริมไหล่ทางก็เป็นสิ่งที่อันตราย ยิ่งช่วงหน้าหนาวที่มีหมอกหรือทัศนวิสัยในการมองเห็นไม่ชัดเจน การจอดรถบริเวณไหล่ทางหรือฟุตบาท อาจเกิดอุบัติเหตุได้


12. ขับรถให้ช้าลง

ต้องไม่ใช้ความเร็วมากเกินไป ยิ่งบริเวณมีหมอกลงจัดระยะการมองเห็นสั้นลง ควรใช้ความเร็วให้ช้าลงเพื่อความปลอดภัย

 


ก่อนเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นระยะทางใกล้หรือไกล ควรหมั่นตรวจเช็คสภาพรถอยู่เสมอ และเลือกประกันรถยนต์ที่วางใจ เพิ่มความมั่นใจทุกเส้นทางให้คุณและรถยนต์คู่ใจ สินมั่นคงพร้อมคุ้มครอง ดูแลคุณด้วยบริการที่สะดวกรวดเร็ว
สอบถามและเช็คเบี้ยประกันภัยง่ายๆ ที่  www.smk.co.th/premotor.aspx หรือ โทร.1596  
สินมั่นคงประกันภัย..ประกันรถ ประกันเวลา..

Photo source: freepix.com