ข่าวสารและบทความ

ประกันรถยนต์ : เติมลมยาง ควรเติมอย่างไร เรื่องง่ายๆ ที่ควรรู้

ประกันรถยนต์ : เติมลมยาง ควรเติมอย่างไร เรื่องง่ายๆ ที่ควรรู้

 

หลายคนทราบดีว่าเราต้องเช็คลมยางรถยนต์อยู่เสมอ หากลมยางอ่อนก็ควรเติมลมยาง แต่เราควรจะเติมลมยางเท่าไรดี ? ปริมาณลมยางที่เราเติมไม่ควรเกินหรือต่ำกว่าค่ามาตรฐาน เพราะมีผลต่อขับขี่โดยตรง รวมถึงการยึดเกาะถนนซึ่งมีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ สินมั่นคง ประกันรถยนต์ จึงขอนำเคล็ดลับเกี่ยวการเติมลมยางมาบอกผู้ใช้รถทุกท่าน เพื่อความปลอดภัยดังนี้


การเติมลมที่ถูกต้องได้มาตรฐานตรงกับรถยนต์ที่เราใช้นั้น เราสามารถดูได้ที่ตรงขอบประตูรถยนต์ฝั่งคนขับ โดยรถส่วนใหญ่จะติดสติกเกอร์บอกรายละเอียดต่างๆ เช่น ระดับแรงดันหน่วยเป็น PSI และหน่วยต่างๆ นอกจากนี้ยังบอกอีกด้วยว่า ลมยางที่เหมาะกับจำนวนผู้โดยสาร เช่น เมื่อโดยสาร 5 คน หรือ 4 คน การเติมลมยางนั้นก็มีค่าที่ต่างกันออกไป แต่สำหรับรถที่เปลี่ยนล้อใหม่หรือขนาดยางใหม่ ก็ควรจะสอบถามหรือหาข้อมูลค่าการเติมลมของยางรุ่นนั้นๆ ก่อนเปลี่ยนยาง

 

 

สำหรับค่าความดันลมยางในรถยนต์ทั่วไป แบ่งออกเป็น

1. ความดันลมยางรถเก๋ง

- รถเก๋งที่มีขนาดเล็ก น้อยกว่าหรือเท่ากับ 1500 cc ความดันลมยางอยู่ที่ประมาณ 25-30 ปอนด์/ตารางนิ้ว

- รถเก๋งที่มีขนาดกลางถึงใหญ่ มากกว่า 1500 cc ความดันลมยางอยู่ที่ประมาณ 30-35 ปอนด์/ตารางนิ้ว


2. ความดันลมยางรถกระบะ

- ควรเติมลมยาง 35 - 38 แต่ถ้าบรรทุกของหนักควรเติมอยู่ที่ 38 - 40 ไม่ควรเกิน 65 PSI (ปอนด์) เพื่อป้องกันรถยางระเบิดหากขับขี่ด้วยความเร็วสูง

 


อาการที่บอกว่าเราต้องเติมลมยาง

- พวงมาลัยหนักเกินไป แสดงว่ายางอ่อนเกินไป ให้เติมลมเพิ่มอีก 2-3 PSI (ปอนด์)

- ขับแล้วรู้สึกว่ารถแข็งกระด้าง แสดงว่ายางแข็งเกินไป ให้ลดลง 2-3 PSI (ปอนด์)

- เช็คลมยาง เดือนละ 1 ครั้ง ควรเช็คในขณะที่ยางยังไม่ร้อน

- หากต้องเดินทางไกล ควรเติมลมยางให้มากกว่าปกติ 2-3 PSI (ปอนด์)

 

 

ข้อควรปฎิบัติในการเติมลมยาง

 

1. ต้องเติมลมยางให้ครบทั้งสี่ล้อในปริมาณแรงดันลมยางที่เท่ากัน เพราะหากเติมปริมาณลมยางไม่เท่ากันจะทำให้การสึกหรอของยางไม่เท่ากัน

2. ข้อควรระวัง ไม่ควรเติมลมยางเวลาที่ยางมีความร้อนอยู่ เพราะยางกำลังขยายตัวอยู่ ทำให้เวลาเราเติมลมเข้าไปนั้นลมจะเข้าไปมากกว่าปกติที่ได้กำหนดไว้

3. หากรถยนต์มีการบรรทุกของที่มีน้ำหนักมากบ่อยๆ หรือมีผู้โดยสารมากในการเดินทาง ควรเติมลมยางเผื่อจากค่าที่กำหนดเพิ่มอีกสัก 2 -3 ปอนด์


ผลของการเติมลมยางอ่อนเกินไป

ขับขี่จะรู้สึกว่านุ่มนวล แต่เครื่องยนต์จะทำงานมากกว่าปกติเพื่อเคลื่อนรถไปข้างหน้า ทำให้รถอืด กินน้ำมัน ยางแตกได้ง่าย และมีผลต่อหน้ายางจะสึกหรอไม่เท่ากันในระยะยาว

 

ผลของการเติมลมยางแข็งเกินไป

การออกตัวจะดี การขับขี่จะสั่นสะเทือนง่าย ประสิทธิภาพการยึดเกาะขณะเข้าโค้งจะลดลง หากมีการเบรกกะทันหัน รถจะต้องใช้ระยะเบรกเพิ่มขึ้น และหากตกหลุมขณะที่ขับมาด้วยความเร็ว อาจจะทำให้ยางระเบิดได้

 

เติมลมครั้งต่อไปควรเติมให้ถูกต้อง เพื่อปลอดภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร และอย่าลืมเลือกประกันรถยนต์ที่วางใจ ช่วยเพิ่มความมั่นใจทุกเส้นทางให้คุณ และรถยนต์คู่ใจ สินมั่นคงพร้อมคุ้มครอง ดูแลคุณด้วยบริการที่สะดวกรวดเร็ว
สอบถามและเช็คเบี้ยประกันภัยง่ายๆ ที่  www.smk.co.th/premotor.aspx หรือ โทร.1596  
สินมั่นคงประกันภัย..ประกันรถ ประกันเวลา..

Photo source: freepik.com