ข่าวสารและบทความ

ประกันภัยที่อยู่อาศัย : ค่าไฟฟ้าหน้าร้อน แพงขึ้นจากอะไร? มาเช็กกัน

ประกันภัยที่อยู่อาศัย : ค่าไฟฟ้าหน้าร้อน แพงขึ้นจากอะไร? มาเช็กกัน

 

สิ่งที่ตามมาเมื่อใกล้จะหมดช่วงเดือนสุดท้ายของฤดูร้อนมักเป็นใบเสร็จค่าไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้นกว่าช่วงเดือนอื่น ๆ ของปี แต่เหมือนว่าในปีนี้ ตัวเลขค่าไฟฟ้าของแต่ละบ้านดูจะสูงขึ้นเป็นพิเศษกว่าทุกปีจากการหยุดทำงานอยู่บ้านของคนส่วนใหญ่ที่ทำให้ต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้ามากเป็นพิเศษกว่าทุกปี แต่ก็มีบางบ้านที่ยังคงต้องออกไปทำงานตามปกติ และไม่ได้มีการใช้ไฟฟ้าหรือมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากเดิมมากเท่าใดนัก แต่ค่าไฟฟ้ากลับพุ่งสูงขึ้นจนน่าตกใจ วันนี้ สินมั่นคง ประกันภัยที่อยู่อาศัย จึงมีวิธีทดสอบการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเรา ว่ามีสิ่งใดผิดปกติใดเกิดขึ้นหรือไม่มาฝากกันค่ะ  

 

 

 

1. ทดสอบการเชื่อมต่อไฟฟ้า

ด้วยการสับเบรกเกอร์ลง เพื่อปิดการเชื่อมต่อไฟฟ้าที่เข้ามาในบ้าน แล้วตรวจสอบมิเตอร์ไฟ ซึ่งหากเมื่อสับเบรกเกอร์ลงเพื่อปิดไฟหมดแล้ว แต่มิเตอร์ไฟยังหมุนอยู่ นั่นแปลว่าเกิดการรั่วไหลของไฟฟ้าอย่างแน่นอน ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น

    • มิเตอร์ไฟชำรุด
    • มีไฟฟ้าลัดวงจรรั่วลงดินในบริเวณบ้าน

    • เกิดการลัดวงจรระหว่างสายไฟของบ้านเรากับบ้านอื่น ซึ่งอาจเกิดจากมีอะไรมาขัดขวางจนทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร เช่น สัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่อาจไปติดและตายอยู่บริเวณนั้น
    • มีการแอบลักลอบพ่วงใช้งานไฟฟ้าจากบ้านของคุณ

 

 

2. เรียกช่างมาซ่อมเมื่อเกิดปัญหา

เมื่อแน่ใจว่าเกิดปัญหาความผิดปกติของไฟฟ้าอย่างแน่นอนแล้ว ควรติดต่อ หาช่างไฟฟ้า ให้มาดำเนินการแก้ไข หรือสามารถติดต่อการไฟฟ้าที่รับผิดชอบในเขตบ้านของคุณ เพื่อให้มาปรับแก้ไขหรือเปลี่ยนมิเตอร์ใหม่ได้ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามิเตอร์มีปัญหา มีความคลาดเคลื่อนเกินว่า +/- 2.5% จะมีการเปลี่ยนมิเตอร์ให้ใหม่ทันที โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งลดค่าใช้ไฟฟ้าที่เกินมาให้ในรอบบิลถัดไปด้วย
   

 

 

3. เปรียบเทียบบิลค่าไฟ

นำใบเสร็จค่าไฟฟ้าเก่าย้อนหลังสามเดือนมาเปรียบเทียบกัน รวมถึงค่าไฟในช่วงเดียวกันของปีก่อน และลองนึกถึงการใช้ไฟฟ้าของเราในเดือนล่าสุด ว่ามีอุปกรณ์อะไรเพิ่มเข้ามาใหม่หรือไม่ หรือใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าใดมากเป็นพิเศษมากกว่าเดิมบ้างหรือไม่ เพราะบางทีการที่เรารู้สึกว่าจ่ายแพงขึ้นก็อาจเกิดจากเหตุผลอื่นไม่ใช่มีแค่มิเตอร์มีปัญหา

 

4. ยิ่งใช้ไฟมาก ค่าไฟยิ่งแพง

  • เพราะอัตราการคำนวณค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้า จะเป็นการคิดจากอัตราก้าวหน้า โดยเราสามารถคำนวณได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้ ต้องทราบก่อนว่าอัตราค่าไฟฟ้าของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านนั้นใช้ไฟมากน้อยเพียงใด โดยจะต้องสังเกตว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละเครื่องมีกำลังไฟฟ้าที่มีหน่วยเป็นวัตต์เท่าไร ยิ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีจำนวนวัตต์มาก ก็หมายความว่าจะใช้ไฟฟ้ามากขึ้นไปด้วย  
  • สำรวจว่า เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่มีอยู่ ได้เปิดใช้งานประมาณวันละกี่ชั่วโมง 
  • นำข้อมูลที่ได้มาคำนวณค่าใช้ไฟฟ้าด้วยสูตร 

กำลังไฟฟ้า (วัตต์ ) x จำนวนเครื่องใช้ไฟฟ้า ÷  1000 x จำนวนชั่วโมงที่ใช้ใน 1 วัน = จำนวนหน่วยต่อวัน (ยูนิต)

  • นำจำนวนหน่วยที่ได้มาคำนวณค่าไฟฟ้าตามอัตราก้าวหน้า ดังนี้

 

 

จากตารางอัตราการคำนวณค่าไฟฟ้าจะพบว่า นอกจากจะคำนวณในอัตราก้าวหน้าจากจำนวนหน่วยที่ใช้แล้ว ยังเป็นการคำนวณตามช่วงเวลาของการใช้งานด้วย กล่าวคือ หากในช่วงนั้นมีผู้ใช้ไฟฟ้ามาก จำนวนตัวคูณอัตราการใช้ไฟก็จะมากขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ ด้วยอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ยังเป็นสาเหตุทำให้เครื่องปรับอากาศและตู้เย็นต้องทำงานหนักขึ้นจนทำให้เกิดการสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้นด้วยเข่นกัน


แม้การอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ จะทำให้ประหยัดเวลาและค่าเดินทางเพื่อออกไปทำงานได้มากขึ้น แต่ก็มีการใช้พลังงานและเครื่องใช้ไฟฟ้ามากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน เราจึงควรหมั่นตรวจตราเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในบ้านให้ยังคงสภาพใช้งานได้ตามปกติอย่างปลอดภัย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเกิดไฟฟ้าลัดวงจร อันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอัคคีภัย

 

ช่วยให้คุณอุ่นใจยิ่งขึ้น ด้วยประกันภัยบ้านอยู่อาศัยรักษ์บ้านจากสินมั่นคงประกันภัย ให้ความคุ้มครองที่อยู่อาศัย บ้านเดี่ยว บ้านจัดสรร ที่รับความเสียหายต่อสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินภายใน จากไฟไหม้, ฟ้าผ่า, ภัยระเบิด, ภัยจากยวดยานพาหนะ, ภัยจากอากาศยาน ภัยเนื่องจากน้ำ และภัยธรรมชาติ
สนใจรายละเอียด คลิก www.smk.co.th/others หรือ โทร.1596 ตลอด 24 ชั่วโมง
สินมั่นคงประกันภัย ..เราประกัน คุณมั่นใจ..

 Photo source: freepik.com