ข่าวสารและบทความ

ประกันรถยนต์ : เคล็ดลับใช้แอร์รถยนต์ ให้เย็นฉ่ำ ปลอดภัย ที่ช่างแอร์ไม่เคยบอก

ประกันรถยนต์ :  เคล็ดลับใช้แอร์รถยนต์ ให้เย็นฉ่ำ ปลอดภัย ที่ช่างแอร์ไม่เคยบอก

 

ช่วงนี้เราต้องเจอกับอากาศร้อนจัด เมื่อขับรถอยู่บนถนนตอนกลางวันที่แดดร้อน ๆ เราต้องแอร์ที่เย็นฉ่ำในรถเพื่อคลายร้อน แต่ก็กังวลเรื่องความสะอาดของอากาศภายในรถจากการระบาดของไวรัส โควิด-19 (Covid-19) แล้วเราจะมีวิธีดูแลแอร์รถยนต์ช่วงนี้อย่างไร ให้ทั้งเย็นฉ่ำ และสะอาดปลอดภัยห่างไกลจากเชื้อโรค สินมั่นคง ประกันรถยนต์ จึงมีเคล็ดลับดูแลแอร์รถในช่วงนี้มาแนะนำกัน

 

 

การดูแลรักษาแอร์ให้เย็นฉ่ำ และ ปลอดภัยห่างไกล โควิด-19

 

1. ต้องปิดสวิตซ์แอร์ ก่อนสตาร์ทเครื่องทุกครั้ง 
หากเปิดไว้จะฉุดการทำงานคอมเพรสเซอร์แอร์ได้ ต้องเปิดแอร์หลังจากสตาร์ทเครื่องไปแล้วทุกครั้ง


2. หากขับรถอยู่โดยไม่เปิดแอร์ ก็ไม่ควรเปิดตอนเครื่องยนต์หมุนด้วยความเร็วรอบสูง  เกิน 3,000 รอบ/นาที
เพราะจะทำให้น้ำมันหล่อลื่นไหลซึมใต้ท้องรถเมื่อจอดรถ และอาจส่งทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์อื่นเสียหาย ชำรุดได้  ฉะนั้นจึงควรเปิดแอร์ให้คอมเพรสเซอร์ให้ทำงานครั้งแรก หรือเปิดแอร์ที่ความเร็วรอบเครื่องยนต์ต่ำเสียก่อน ประมาณ 10-15 วินาที  ก่อนถึงจะเร่งเครื่องยนต์


3. หลังจากสตาร์ทรถไปสัก 2 นาที ค่อยเปิดสวิตช์ A/C
ให้เปิดเพียงพัดลมแอร์สูง ๆ ก่อนเป็นการไล่ความร้อนในรถ ทำให้ระบบแอร์ระบายความร้อนออกไปจากนั้นค่อยปรับอุณหภูมิแอร์ในรถให้เย็นฉ่ำตามต้องการ


4. ถ้าอากาศเย็นเกินไปให้ใช้วิธีปรับอุณหภูมิให้เพิ่มขึ้น อย่าปิดช่องแอร์เพราะคอมเพรสเซอร์จะได้ไม่ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น


5. ถ้าอากาศในรถร้อนมาก โดยเฉพาะรถที่จอดตากแดดนาน ๆ ให้เปิดลมเป่าในรถแบบแรงสุดโดยอย่าพึงเปิดสวิตช์แอร์ให้ไล่ลมร้อนไปสัก 5 นาทีค่อยเปิดจะทำให้ความร้อนออกไป จากนั้นก็ค่อยเปิดสวิตช์ A/C และปรับแอร์ตามที่ต้องการจะทำให้แอร์รถไม่ทำงานหนักจนเกิดไป และยังช่วยลดกลิ่นอับในรถได้อีกด้วย


หรือจะใช้เทคนิคระบายความร้อนในรถที่จอดกลางแดดก่อนสตาร์ทและเปิดแอร์ ดังนี้

1). เปิดกระจกฝั่งคนนั่งลงให้สุด

2). เปิด - ปิด ประตูฝั่งคนขับประมาณ 5 ครั้ง โดยที่ไม่ต้องปิดสนิท แค่พับเข้าพับออกเท่านั้น

3). ปิดกระจกฝั่งคนนั่ง สตาร์ทรถและเปิดแอร์ตามปกติ

เท่านี้ก็จะช่วยลดอุณหภูมิภายในรถได้อย่างรวดเร็ว

 

 

6. ห้ามเปิดกระจกรถโดยไม่จำเป็น
เนื่องจากการเปิดกระจกรถบ่อย ๆ จะทำให้ความเย็นในรถออกไปข้างนอก แล้วยังเสี่ยงที่ฝุ่นจากภายนอกเข้าไปอุดตันในตู้แอร์หรือในแผ่นกรองอากาศแอร์ทำให้ เสื่อมสภาพเร็ว


7. ปรับระดับพัดลมกับความเย็นให้สัมพันธ์กัน
เช่น ถ้าหากปรับระดับอุณหภูมิสูงมาก แต่เปิดความแรงลมเพียงเบอร์ 1 จะทำให้น้ำแข็งเกาะที่แผงคอยล์แอร์ ทำให้แอร์ไม่เย็น และควรปรับอุณหภูมิให้เหมาะกับสภาพอากาศนอกรถด้วย


8. ปิดแอร์ก่อนถึงปลายทางสัก 5–10 นาที
ด้วยการปิดสวิตซ์ A/C และเปิดพัดลมไปที่ความเร็วสูงสุดแทน วิธีนี้จะช่วยลดภาระการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และไล่ความชื้นออกจากคอยล์เย็น ซึ่งจะช่วยป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียภายในได้ดี แล้วจึงค่อยปิดพัดลมก่อนดับเครื่องยนต์


9. ถ้าแอร์เริ่มไม่เย็น ให้รีบปิดสวิตช์ A/C ก่อน
ทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์หยุดทำงาน แต่ว่ายังสามารถเปิดพัดลมให้ทำงานได้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คอมเพรสเซอร์เสียหายไปก่อน จากนั้นจึงนำรถไปตรวจเช็กความผิดปกติทีหลัง


10. อย่าลืมหมั่นถอดเอาแผ่นกรองอากาศแอร์ออกมาทำความสะอาด
หากไม่เคยถอดออกมาเลยนั้นแผ่นกรองอาจจะมีอะไรอุดตันอยู่ทำให้แอร์ไม่ทำงาน หรือทำงานไม่เต็มที่ ลมแอร์เบา ไม่เย็น และแอร์ไม่บริสุทธิ์


11. เปลี่ยนกรองแอร์และล้างแอร์ ทุก ๆ 20,000 กิโลเมตร  เพื่ออากาศที่สะอาดและยังช่วยถนอมแอร์อีกด้วย


12. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในรถ ช่วยทำให้อากาศในรถสะอาด นอกจากนี้เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นก็ยังสามารถฆ่าเชื้อไวรัสที่เป็นอันตรายต่อคนได้ด้วย


13. ทำความสะอาดภายในห้องโดยสารอยู่เสมอ เพื่ออากาศภายในรถที่สะอาดปราศฝุ่นและเชื้อโรค ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ


ในสถานการณ์นี้เราทุกคนต้องร่วมกัน อยู่บ้านให้มากที่สุด และเดินทางออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็น ดูแลตนเองและรถให้ปลอดภัย หากเราทุกคนร่วมกันดูแลตนเอง เราก็จะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างปลอดภัยแน่นอน  และอย่าลืมเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ทุกครั้ง เพราะอุบัติเหตุไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไร ด้วยประกันรถยนต์ที่วางใจ สินมั่นคง ประกันภัย พร้อมดูแลท่านแม้ต้องอยู่บ้าน
ด้วยบริการทางออนไลน์ง่ายๆ ที่
www.smk.co.th  สามารถ เช็ก ซื้อ ชำระเบี้ย ประกันรถยนต์ สะดวก ไม่ยุ่งยาก ประหยัดเวลา เพื่อความคุ้มครองที่ต่อเนื่อง 
สินมั่นคงประกันภัย..ประกันรถ ประกันเวลา..

Photo source: freepik.com