ข่าวสารและบทความ

ประกันรถยนต์ : ขับรถลุยน้ำท่วมสูง หรือน้ำป่าหลากอย่างไรให้ปลอดภัย

ประกันรถยนต์ : ขับรถลุยน้ำท่วมสูง หรือน้ำป่าหลากอย่างไรให้ปลอดภัย

 

เป็นช่วงปลายฤดูฝนของปีที่มีพายุพัดกระหน่ำจนทำให้เกิดฝนฟ้าคะนองอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศที่พบว่ามีน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนจนได้รับความเสียหาย ( อ่าน รู้จัก “อุทกภัย” และน้ำป่าไหลหลาก คลิก ) ช่วงวันหยุดยาว 4-7 กันยายนนี้ อาจมีหลายท่านต้องขับรถกลับบ้าน แล้วจะทำอย่างไรหากต้องขับไปเจอกับน้ำท่วมหรือบริเวณที่มีน้ำป่าไหลหลากโดยไม่ได้เตรียมใจไว้ก่อน สินมั่นคง ประกันรถยนต์ มีข้อมูลมาฝากกันค่ะ

 

 

สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ.1669 ได้แนะนำวิธีปฏิบัติตัวเมื่อต้องเจอกับ น้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลาก ไว้ดังนี้

 

    1. กรณีที่เกิดพายุ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจะต้องฟังประกาศเตือนภัย และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 

    2. เตรียมการในเบื้องต้นเพื่อระวังภัยโดยการตรึงประตู หน้าต่าง ให้มั่นคง 

    3. ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรขณะฝนตกฟ้าคะนอง 

    4. เตรียมอุปกรณ์จำเป็น เช่น เทียนไข ไฟฉาย ยาประจำตัวติดตัวตลอด ขณะฝนตกฟ้าคะนอง ห้าม อยู่ใต้ต้นไม้ เสาไฟ และห้ามโทรศัพท์ เด็ดขาด

    5. หากเกิดดินโคลนถล่มเพราะฝนตกหนักให้สังเกตสัญญาณเตือนภัยของเหตุดินโคลนถล่ม เช่น เสียงต้นไม้หัก หินก้อนใหญ่ตกลงมา โดยต้องสังเกตสีและลักษณะของน้ำ ดังนี้

  • น้ำมีสีขุ่น ให้อพยพไปในพื้นที่สูงและมั่นคง 
  • หากพลัดตกน้ำ หาต้นไม้ใหญ่เกาะ รีบขึ้นจากน้ำให้ได้ 
  • หากหนีไม่ทัน ให้ม้วนตัวเป็นทรงกลม ให้มากที่สุด เพื่อป้องกันศีรษะกระแทก

    6. ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยต้องรีบอพยพขึ้นที่สูง โดยหลีกเลี่ยงแนวธารน้ำ ช่องระบายน้ำ สวมเสื้อชูชีพ ห้ามเดินฝ่ากระแสน้ำ และใช้ไม้ปักดินคลำทาง เพื่อสังเกตว่าดินตื้นลึกแค่ไหน

 

 

หากผู้ขับขี่ต้องขับรถเข้าไปในเส้นทางที่มีฝนตกหนัก ควรที่จะขับรถอย่างระมัดระวังเพราะนอกจากจะพบเจอเข้ากับเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมเส้นทางแล้วอาจจะพบเจอเข้ากับปัญหาดินถล่มสไลด์ตัวปิดถนนได้ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถที่จะเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นได้ก็สามารถที่จะขับฝ่าน้ำเข้าไปได้เช่นกัน ดังนี้

 

   •  ขับขี่อย่างระมัดระวัง เนื่องจากรถยนต์ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สามารถขับลุยน้ำได้ยกเว้นรถออฟโรดซึ่งมีการยกระดับตัวถังให้สูงจากพื้นส่งผลให้สามารถขับรถลุยน้ำท่วมได้โดยง่าย 

    • ปิดระบบปรับอากาศภายในรถเพื่อไม่ให้ระบบปรับอากาศทำการดูดอากาศเข้ามาในระบบซึ่งจะรวมไปถึงน้ำเข้ามาด้วย

    • ลดกระจกลงเนื่องจากปัจจุบันกระจกรถส่วนใหญ่มีการติดตั้งระบบปรับขึ้น-ลงได้ด้วยไฟฟ้าหากรถเกิดดับในขณะลุยน้ำอยู่จะไม่สามารถเปิดกระจกได้ 

    • ผู้ขับขี่ที่ต้องขับรถผ่านพื้นที่น้ำท่วมควรใช้เกียร์ต่ำ ก่อนจะใช้วิธีการเหยียบคันเร่งเบา ๆ ในระยะความเร็วที่ไม่สูงมากนัก

    • ไม่ควรผ่อนคันเร่งเพื่อป้องกันเครื่องยนต์ดับ ถ้าหากเครื่องยนต์ดับผู้ขับขี่ก็ไม่ควรฝืนสตาร์ทเครื่องยนต์อีกเพราะยิ่งจะทำให้น้ำเข้าไปภายในระบบเครื่องยนต์มากยิ่งขึ้น

    • หมั่นสังเกตว่ามีเสียงน้ำเข้าไปภายในท่อไอเสียหรือไม่ เนื่องจากหากมีน้ำเข้าไปภายในท่อไอเสียจะทำให้รถเร่งไม่ขึ้นแรงตกและน้ำเข้าสู่เครื่องยนต์ส่งผลให้เครื่องยนต์ดับไปได้ด้วยเช่นกัน 

    • ห้ามขับรถฝ่ากระแสน้ำท่วม 

    • หากถ้าน้ำขึ้นสูงรอบ ๆ รถ ให้รีบออกจากรถให้เร็วที่สุด

    • อย่าเสี่ยงช่วยผู้อื่นหากอุปกรณ์ไม่พร้อม เพราะอาจไม่รอดทั้งคู่

    • หลังจากถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ควรล้างทำความสะอาดรถโดยเร็วเนื่องจากหากมีน้ำเกาะอยู่กับรถจะส่งผลให้มีสนิมเกาะกินได้ง่ายและทำให้ระบบห้ามล้อมีการทำงานที่ผิดปกติไปด้วย

 

ช่วยให้คุณแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย สู้ทั้งภัยน้ำท่วมและโควิด-19 ด้วยประกันรถยนต์ตามเวลาจากสินมั่นคงประกันภัย ประกันชั้น 1-3+ เลือกได้ตามใจ ให้ความคุ้มครองตั้งแต่ 3,6,9,12 เดือน ด้วยเบี้ยเริ่มต้นเพียง 485 บาท !!! คลิก www.smk.co.th/premotor.aspx
สินมั่นคงประกันภัย ...ประกันรถ ประกันเวลา…