ข่าวสารและบทความ

ประกันการเดินทาง : แกะรอย 3 ความหมายสำคัญของวันคริสต์มาส !

ประกันการเดินทาง : แกะรอย 3 ความหมายสำคัญของวันคริสต์มาส !

 

ใกล้เข้ามาทุกทีกับเทศกาลแห่งความสุข หรือ “เทศกาลคริสต์มาส” ที่หลายคนกำลังเฝ้ารอเฉลิมฉลองเเละพบปะกับคนที่รัก แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากวันคริสต์มาสจะอบอวลไปด้วยความสุขเเละการเฉลิมฉลองเเล้ว ทุกกิจกรรมในวันคริสต์มาสล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวเเละความหมายยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ วันนี้ สินมั่นคง ประกันภัยการเดินทาง รวบรวมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของวันคริสต์มาสมาฝากกัน 


1. ดื่มด่ำกับความหมายของวันคริสต์มาส (Christmas Day)

รู้หรือไม่? วันคริสต์มาส หรือทุกวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี คือ การฉลองวันประสูติของพระเยซูคริสต์ ผู้เป็นศาสดาสูงสุดของชาวคริสต์ทั่วโลกที่เสด็จลงมาประสูติยังโลกมนุษย์ และได้เสียสละพระองค์เพื่อปลดปล่อยมวลมนุษย์จากบาปทั้งปวง ดังนั้นประเพณีของการฉลองคริสต์มาส จึงมีส่วนสำคัญที่ย้ำเตือนให้มนุษย์ทุกคนมอบความรักและรับใช้เพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างเต็มที่

คำว่า “คริสต์มาส” มีที่มาจากคำว่า “Christ’s Mass” ซึ่งมีรากคำมาจากคำว่า “Christemasse” ของภาษาอังกฤษยุคกลางที่แปลว่าพิธีบูชามิสซาของพระคริสตเจ้า โดยการร่วมพิธีมิสซาเป็นประเพณีสำคัญที่สุดที่ชาวคริสต์ยึดถือปฎิบัติกันในวันคริสต์มาส โดยคำว่า “Cristes” มาจากพระเยซูคริสต์ของกรีก และคำว่า “mæsse” มาจากหนังสือสวดมนตร์ของชาวละติน 

ในเวลาต่อมาคำว่า “Christes Maesse” ได้แผลงมาเป็นคำว่า “Christmas” และคำว่า “Merry” ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า “สันติสุข และความสงบทางใจ” ดังนั้นเเล้ว เวลาที่อวยพรเเละส่งต่อความปรารถนาดีให้แก่กันในเทศกาลคริสต์มาสจึงใช้คำว่า “สุขสันต์วันคริสต์มาส (Merry Christmas)” แปลว่าขอให้ได้รับสันติสุขและความสุขสงบ

นอกจากนั้น เราจะพบเห็นการใช้คำว่า “X'mas” ซึ่งเป็นคำย่อที่ใช้โดยทั่วไปของคำว่า “คริสต์มาส” โดยตัวอักษร “X” ใน X'mas มาจากตัวอักษรกรีก “ไค” (เท่ากับพยัญชนะ ch) ซึ่งมีรูปร่างเหมือนตัว X และเป็นตัวอักษรตัวแรกของคำว่า Χριστ?ς (อ่านว่า Christos) ซึ่งมีความหมายว่า “คริสต์” ในขณะที่คำว่า “-mas” มาจากคำในภาษาอังกฤษโบราณ ซึ่งนำมาจากภาษาละตินหมายถึง “มิสซา” คือพิธีศีลมหาสนิทของคริสตชนนั่นเอง

 

 

2. ตกแต่งต้นไม้คริสต์มาส (Christmas Tree)

รู้หรือไม่? ในอดีตเชื่อกันว่าต้นไม้คริสต์มาสหมายถึงต้นไม้ในสวนสวรรค์ซึ่งพระเจ้าสั่งห้ามมิให้ผู้ใดเด็ดผลไม้มากิน แต่ “อาดัม” มนุษย์เพศชายคนแรกที่พระเจ้าสร้างขึ้น เเละ “เอวา” ภรรยาของอดัม ได้ฝ่าฝืนคำสั่งเด็ดผลไม้ลงมากิน ซึ่งถือเป็นบาปที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้า และได้ถูกเนรเทศให้มาอยู่บนโลกมนุษย์ ในเวลาต่อมาชาวคริสต์จึงเริ่มมีการแสดงละครคริสต์มาสที่หน้าวัดโดยนำต้นสนวางไว้บริเวณกลางลาน เพื่อประดับฉาก เเละเพื่อสื่อถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวา

การแสดงละครคริสต์มาสดังกล่าวมีมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งศตวรรษที่ 15 ได้มีคำสั่งห้ามแสดงละครคริสต์มาส เนื่องจากมีการสอดแทรกเรื่องราวล้อเลียนเสียดสีชาวบ้าน ผู้ปกครอง และศาสนาเอาไว้ ซึ่งไม่สอดคล้องกับบรรยากาศของการเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสแบบที่เคยเป็นมา จึงเปลี่ยนไปจัดกิจกรรมรื่นเริงที่บ้านของแต่ละคนแทน และได้มีการวางต้นสนไว้บริเวณกลางบ้านเช่นเดียวกันกับในลานวัดที่เป็นพื้นที่แสดงละคร หลังจากนั้นได้เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ล และแผ่นขนมปังเพื่อระลึกถึงพิธีศีลมหาสนิท ในเวลาต่อมา ชาวเยอรมนีจึงเริ่มตกแต่งบ้านเรือนในช่วงวันคริสต์มาสอย่างเเพร่หลาย และธรรมเนียมนี้ได้ถูกขยายวงไปยังประเทศอังกฤษ จากการที่เจ้าชายอัลเบิร์ต (Albert, Prince Consort) ซึ่งเป็นชาวเยอรมนีได้นําต้นคริสต์มาสไปตั้งไว้ในพระราชวังวินเซอร์ (Windsor Castle) ใน ค.ศ.1840 

ชาวเยอรมนียังมีประเพณีในคืนวันคริสต์มาสอีกอย่างหนึ่ง คือ การจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปพีรามิดบนต้นไม้คริสต์มาสตลอดคืนวันคริสต์มาส โดยมีดาวแห่งดาวิด (Star of David) ตั้งอยู่ที่ปลายยอดของพีรามิดร่วมกับการแขวนของขวัญและขนมบนต้นไม้คริสต์มาส ซึ่งทำให้ต้นไม้ที่ประดับประดาด้วยเทียนไขในช่วงวันคริสต์มาสได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วภาคเหนือของทวีปยุโรป เเละสหรัฐอเมริกาจากการย้ายถิ่นฐานของชาวเยอรมนีไปยังสหรัฐอเมริกา 

จนกระทั่งในปี ค.ศ.1882  ได้มีการทดลองตกเเต่งต้นคริสต์มาสด้วยหลอดไฟฟ้าเป็นครั้งแรกภายในบ้านของเพื่อนโทมัส เอดิสัน (Thomas Edison) นักประดิษฐ์คนสำคัญ โดยใช้หลอดไฟฟ้ารวมทั้งสิ้นกว่า 80 หลอด เเละต่อมาในปี ค.ศ.1903 เริ่มมีการผลิตไฟสำหรับประดับวันคริสต์มาสออกจำหน่าย เเต่ยังมีราคาสูงเกินกำลังซื้อของครอบครัวทั่วไป ซึ่งต่อมาสามารถผลิตหลอดไฟในราคาที่ถูกลงได้จำนวนมากขึ้นเเละได้กลายเป็นที่นิยมในการตกเเต่งต้นไม้คริสต์มาสดังที่เห็นได้ในปัจจุบัน


3. ปาร์ตี้กับซานตาคลอส (Santa Claus)

 รู้หรือไม่ ? “ซานตา คลอส” (Santa Claus) เพี้ยนมาจากคำว่า ซินเตอร์คลาส (Sinterklaas) หรือ Sint-Nicolaas โดยในภาษาดัตช์ หมายถึง นักบุญนิโคลัส (Saint Nicholas) สังฆราชของไมรา (Bishop of Myra) หรือประเทศตุรกีในปัจจุบัน ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์เด็ก ผู้ยากจน เเละผู้ตกทุกข์ได้ยาก และผู้อุทิศตนเพื่อประโยชน์แห่งคริสตจักรอย่างแท้จริง ซึ่งต่อมาเป็นที่นับถือเเละรู้จักอย่างกว้างขวางทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์

    จนกระทั่งในช่วงศตวรรษที่ 17 เมื่อชาวดัตช์ย้ายถิ่นฐานมายังนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ยังคงปฏิบัติตามธรรมเนียมในวันฉลองนักบุญนิโคลัส (St. Nicholas’ Eve) ในทุกวันที่ 6 ธันวาคมอย่างต่อเนื่อง โดยผู้คนจะแต่งกายคล้ายนักบุญและแจกจ่ายของขวัญให้แก่เด็กๆ ทั้งเด็กชาวดัตช์ และเด็กอื่นๆ ที่ไม่ใช่ลูกหลานชาวดัตช์ เพื่อเป็นการระลึกถึงคุณความดีของนักบุญนิโคลัส ทำให้ผู้ที่แต่งกายคล้ายนักบุญนิโคลัสในธรรมเนียมการมอบของขวัญในวันคริสต์มาสนี้เริ่มเป็นที่รู้จัก และแพร่หลายไปทั่วสหรัฐอเมริกาด้วยชื่อเรียกที่เพี้ยนเป็น “ซานตาคลอส” ในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์เดิมของนักบุญนิโคลัสที่เเต่งกายในชุดนักบวช ได้เปลี่ยนเป็นภาพของชายสูงวัยร่างสูงโปร่งในชุดคุลมสีเขียว เเละได้ปรับรูปลักษณ์อีกครั้งให้อยู่ในภาพของชายร่างท้วมสวมชุดคลุมที่ทำจากขนสัตว์ในโทนสีแดงเเละขาว จากชุดภาพโฆษณาของ Coca-Cola ในช่วง ค.ศ. 1930 เเละการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เองที่ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ของนักบุญนิโคลัสไปตลอดกาล 

วันคริสต์มาสเป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญที่เปิดโอกาสให้เราได้ส่งต่อความปรารถนาดีผ่านการมอบของขวัญ เทศกาลงานเลี้ยง เเละงานรื่นเริงต่างๆ เเต่สิ่งสำคัญที่เเท้จริงของวันคริสต์มาส คือ การระลึกและย้ำเตือนถึงความสำคัญในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ เเละสืบสานเจตนารมย์อันดีจากจุดกำเนิดของวันคริสต์มาสให้คงอยู่ต่อไป

 

เทศกาลคริสต์มาสเป็นช่วงเวลาสำคัญที่หลากหลายครอบครัวต่างเดินทางมาสังสรรค์และเฉลิมฉลองร่วมกันอย่างมีความสุข แต่การเดินทางสัญจรบนท้องถนนพร้อมกันในช่วงเทศกาลอาจนำไปสู่อุบัติเหตุทางถนนที่ไม่คาดฝันก็เป็นได้ อุ่นใจขึ้น ! เมื่อมีประกันภัยการเดินทางที่ให้ความคุ้มครองอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการท่องเที่ยว
ลดทันที 30% เมื่อเดินทางคนเดียว หรือ ซื้อ 1 ฟรี 1 เมื่อเดินทางเป็นคู่ หรือเป็นกลุ่ม
เบี้ยเริ่มต้นเพียง 13 บาท !!!
สนใจรายละเอียด คลิก www.smk.co.th/productpadetail/3

สินมั่นคง ประกันภัยการเดินทาง ..เราประกัน คุณมั่นใจ..

Photo source: freepik.com