ข่าวสารและบทความ

ประกันรถยนต์ : "น้ำมันเบรก" คนละยี่ห้อใช้ผสมกันได้หรือไม่ ?

ประกันรถยนต์ :

 

“น้ำมันเบรก” (Brake Fluid) คือ ของเหลวในรถยนต์ที่ทำหน้าที่ถ่ายทอดเเรงเบรกจากแป้นเบรกไปยังระบบห้ามล้อทั้ง 4 ล้อ รวมถึงช่วยหล่อลื่นและป้องกันการสึกหรอของชิ้นส่วนภายในระบบเบรกที่อาจนำไปสู่ปัญหาน้ำมันเบรกรั่วซึม การเติมน้ำมันเบรกผสมกันอาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องตามคู่มือการดูแลรถยนต์โดยทั่วไป แต่หากมีความจำเป็นต้องผสมน้ำมันเบรกที่แตกต่างจากของเดิมเพื่อเติมให้สามารถใช้งานได้ชั่วคราว จะต้องทำอย่างไร? สินมั่นคง ประกันรถยนต์ เตรียมข้อมูลวิธีเติมน้ำมันเบรกที่ถูกต้องมาฝาก

 


ทำไมถึงไม่ควรผสมน้ำมันเบรกคนละยี่ห้อ?

ไม่ควรผสมน้ำมันเบรกที่มีความแตกต่างกันระหว่างยี่ห้อ หรือระหว่างเกรด/มาตรฐาน เนื่องจากแม้ว่าน้ำมันเบรกจะมีเกรดหรือค่ามาตรฐานเทียบเท่ากัน แต่น้ำมันเบรกแต่ละยี่ห้อจะมีส่วนผสมทางเคมีที่ต่างกันตามเเต่ละสูตรการผลิตของบริษัท การใช้น้ำมันเบรกต่างยี่ห้อหรือต่างมาตรฐานอาจทำให้เกิดโอกาสรั่วซึมในระบบเบรก รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของการเบรกในระหว่างขับขี่ได้ ทั้งนี้ ควรเลือกเติมน้ำมันเบรกระหว่างยี่ห้อเฉพาะในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น เช่น กรณีที่น้ำมันเบรกรั่วซึมกะทันหันขณะขับขี่ หรือกรณีเติมชั่วคราวเพื่อเตรียมเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทั้งระบบ
 

 

มาตรฐานน้ำมันเบรกคืออะไร?

มาตรฐานน้ำมันเบรก คือ มาตรฐานเเสดงคุณลักษณะและคุณภาพของน้ำมันเบรกแต่ละชนิดที่กำหนดโดยหน่วยงานในระดับสากล มักเรียกชื่อของหน่วยงานที่ควบคุมมาตรฐานเป็นชื่อมาตรฐานของน้ำมันเบรกเพื่อความสะดวกในการเรียก เช่น มาตรฐาน ‘SAE’ ของสมาคมวิศวกรรมยานยนต์แห่งสหรัฐอเมริกา (Society of Automotive Engineers - SAE) หรือมาตรฐาน ‘DOT’ ของกรมการขนส่งในประเทศสหรัฐอเมริกา (Department of Transporttation - DOT) โดยมาตรฐาน DOT จัดเป็นมาตรฐานน้ำมันเบรกที่คนไทยนิยมใช้งานและรู้จักมากที่สุดชนิดหนึ่ง

มาตรฐานน้ำมันเบรกประเภท DOT จะกำหนดมาตรฐานและแบ่งเกรดของน้ำมันเบรกตามอุณหภูมิจุดเดือด 2 ประเภท ได้แก่

1) จุดเดือดแห้ง หรือจุดเดือดที่ปราศจากความชื้น (Dry Boiling Point) สำหรับน้ำมันเบรกใหม่ที่ยังไม่ผ่านการใช้งาน และ

2) จุดเดือดเปียก หรือจุดเดือดที่มีความชื้นอยู่ในน้ำมัน (Wet Boiling Point) ของน้ำมันเบรกที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว มีการดูดซับความชื้นไปแล้ว แบ่งเป็นมาตรฐาน DOT 2, DOT 3, DOT 4, DOT 5 และ DOT 5.1 โดยน้ำมันเบรกที่มีประสิทธิภาพดีตามมาตรฐานที่กำหนดนั้น จะต้องมีจุดเดือดสูงทั้งในสภาวะที่ปราศจากความชื้นเเละมีความชื้นอยู่ โดยมีรายละเอียดดังนี้

- น้ำมันเบรค DOT 2 มีจุดเดือดแห้ง 190 องศาเซลเซียส และจุดเดือดเปียก 140 องศาเซลเซียส
- น้ำมันเบรค DOT 3 มีจุดเดือดแห้ง 205 องศาเซลเซียส และจุดเดือดเปียก 140 องศาเซลเซียส
- น้ำมันเบรค DOT 4 มีจุดเดือดแห้ง 230 องศาเซลเซียส และจุดเดือดเปียก 155 องศาเซลเซียส
- น้ำมันเบรค DOT 5 มีจุดเดือดแห้ง 260 องศาเซลเซียส และจุดเดือดเปียก 180 องศาเซลเซียส 
- น้ำมันเบรค DOT 5.1 มีจุดเดือดไม่ต่ำกว่า 260 องศาเซลเซียส และจุดเดือดเปียก 180 องศาเซลเซียส  

 ทั้งนี้ การเสื่อมสภาพของน้ำมันเบรกจะขึ้นอยู่กับความชื้นที่น้ำมันเบรกสะสมเอาไว้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การเกิดความร้อนสูงจนถึงจุดเดือดซ้ำๆ, การล้างอีดฉีดน้ำในบริเวณห้องเครื่องโดยไม่ระมัดระวัง, การขับขี่ลุยน้ำ หรือแม้กระทั้งการเปิดฝาของถังน้ำมันเบรกโดยไม่จำเป็น ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำมันเบรกกักเก็บความชื้นเอาไว้ ทำให้จุดเดือดลดต่ำลงกว่าที่มาตรฐานกำหนด และเสื่อมสภาพลง

 


น้ำมันเบรกลดลง สามารถเติมน้ำมันเบรกเพิ่มเข้าไปได้เลยหรือไม่?

ควรต้องตรวจสอบให้ถี่ถ้วนถึงความจำเป็นในการเติมน้ำมันเบรกให้ดีก่อนที่จะเลือกเติมน้ำมันเบรกชนิดเดิม หรือผสมน้ำมันเบรกชนิดใหม่เพิ่มเข้าไป เนื่องจากการที่น้ำมันเบรกพร่องหรือลดปริมาณลงจากเดิมอาจเป็นสัญญาณเตือนของการรั่วซึมที่เกิดขึ้นได้บริเวณแม่ปั๊มเบรก, ก้ามปู (คาลิปเปอร์) ทั้ง 4 ล้อ หรือสายอ่อนต่างๆ รวมไปถึงการสึกหรอของผ้าเบรก 

หากตรวจสอบแล้วไม่พบการรั่วซึม การเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่จะทำให้ปริมาณน้ำมันเบรกกลับมาอยู่ในระดับคงที่เช่นเดิม โดยเจ้าของรถยนต์อาจเลือกเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกเดิมทั้งระบบให้เป็นน้ำมันเบรกใหม่ ไปพร้อมกับการเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่เพื่อความสะดวกได้ด้วยเช่นกัน

หรือหากมีความจำเป็นที่ต้องเติมน้ำมันเบรก ควรเริ่มต้นจากการตรวจสอบคู่มือประจำรถยนต์ก่อนเพื่อตรวจสอบประเภทหรือมาตรฐานน้ำมันเบรกที่รถยนต์สามารถใช้ได้ก่อน รวมถึงสามารถตรวจสอบประเภทน้ำมันเบรกที่สามารถใช้ได้ที่บริเวณฝาถังน้ำมันเบรก เมื่อทราบประเภทเเล้ว ควรเลือกใช้น้ำมันเบรกยี่ห้อเดิมและประเภทเดิมเพื่อรักษาประสิทธิภาพระบบเบรก 


การเติมน้ำมันเบรกที่ดีควรใช้น้ำมันเบรกชนิดเดิมที่เคยใช้มาก่อน หรือหากจำไม่ได้ควรเลือกเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกใหม่ทั้งระบบ พร้อมตรวจสอบหาร่องรอยน้ำมันเบรกรั่วซึมก่อนเติมน้ำมันใหม่เพิ่มเข้าไป
เพิ่มความคุ้มครองให้รถคุณด้วยประกันตามโปรไฟล์ ประกันรถยนต์ชั้น 1
..โปรไฟล์ยิ่งดี ความเสี่ยงยิ่งต่ำ เบี้ยยิ่งถูก.. โปรไฟล์คุณอาจดีกว่าที่คุณคิด เบี้ยเริ่มต้น 6,999 บาท
และยังถูกลงได้อีก หากเลือกแบบมีดีดัก และระบุชื่อผู้ขับขี่ (ลดสูงสุดเหลือเพียง 3,999 บาท) "
การันตีถูกจริง" คลิก www.smk.co.th/productmotordetail/20


บทความที่เกี่ยวข้อง
- ประกันรถยนต์ : วิธีดูแลเบรครถยนต์ด้วยตนเอง
- ประกันรถยนต์ : ตรวจเช็คสภาพรถให้พร้อมก่อนเดินทาง
- ประกันรถยนต์ : เทคนิคการดูแลรักษาระบบเบรกง่ายๆ

Photo source: freepik.com