ข่าวสารและบทความ

ประกันรถยนต์ : สิ่งควรระวังเมื่อจอดรถกลางแดดหน้าร้อน

ประกันรถยนต์ : สิ่งควรระวังเมื่อจอดรถกลางแดดหน้าร้อน

ในช่วงหน้าร้อนเป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์อยู่ใกล้กับประเทศไทย ทำให้กลางวันมีแดดร้อนจัด การจอดรถตากแดดไว้เป็นเวลานานส่งผลต่อให้อุณหภูมิในรถสูงขึ้น โดยเฉพาะรถที่ไม่ได้ติดฟิล์ม และไม่ได้ลดกระจกระบายความร้อน อาจขึ้นสูงถึง 60 องศาเซลเซียส ซึ่งมีผลต่อรถยนต์และสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ในรถ ทำให้เกิดความเสียหายตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงขั้นระเบิด หรือเกิดไฟลุกไหม้ได้ เราจะมีวิธีดูแลป้องกันรถยนต์จากการจอดตากแดดอย่างไร  สินมั่นคง ประกันรถยนต์ มีคำแนะนำมาบอกกัน

 


สิ่งของที่ต้องระวังห้ามเก็บไว้ในรถยนต์
นอกจากความร้อนจะส่งผลต่ออุปกรณ์ในรถยนต์แล้ว สิ่งของที่เก็บอยู่ในรถก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน สิ่งของที่ไม่ควรนำมาเก็บไว้ในรถได้แก่


1. กระป๋องสเปรย์
การเก็บกระป๋องสเปรย์ไว้ในรถยนต์ โดยเฉพาะบริเวณคอนโซลด้านหลังและด้านหน้าติดกับกระจก   เพราะเมื่อกระป๋องสเปรย์ถูกความร้อนจากแสงแดด จะทำให้วัตถุและสารเคมีพร้อมแก๊สที่อยู่ภายในเกิดการขยายตัว จนเกิดการระเบิดขึ้น แรงอัดอาจส่งผลทำให้กระจกรถยนต์แตก รวมถึงการเก็บกระป๋องสเปรย์ไว้ในท้ายรถยนต์ที่ติดแก๊ส กระป๋องสเปรย์ดังกล่าวเมื่อได้รับความร้อนอาจเป็นตัวก่อให้เกิดประกายไฟได้ ดังนั้นเมื่อผู้ขับขี่ได้ยินเสียงดังและเริ่มสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ เช่น รถเริ่มมีควันและมีความเสี่ยงว่าจะระเบิดหรือไฟไหม้  ให้รีบปิดสวิตช์ตัดการทำงานของระบบแก๊สและดับเครื่องยนต์ จากนั้นให้รีบออกจากรถยนต์ทันที พร้อมทั้งนำถังดับเพลิงเคมีฉีดพ่นบริเวณต้นเพลิงซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ขับขี่ทุกคนควรมีติดรถไว้โดยเฉพาะรถยนต์ที่ติดแก๊ส
ส่วนกรณีที่ไม่มีถังดับเพลิงให้ใช้ขวดน้ำฉีดบริเวณที่เกิดไฟไหม้ แต่ทั้งนี้หากเกิดไฟไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ให้ตั้งสติ ดับเครื่องยนต์แล้วรีบลงจากรถโดยออกห่างจากรถให้มากและเร็วที่สุด เพื่อป้องกันรถระเบิด

 
2.  โทรศัพท์มือถือ และ พาวเวอร์แบงก์ 
เนื่องจากที่มีส่วนประกอบลิเธียมไอออน หากโดนความร้อนมาก ๆ ก็มีโอกาสจะลัดวงจรได้ ถ้าเป็นแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ หรือแบตเตอรีคุณภาพต่ำ เวลาโดนความร้อนตัวฉนวนป้องกันความร้อนอาจจะไม่สามารถป้องกันได้ ทำให้เกิดการช็อต ตัวลิเธียมไอออน สามารถติดไฟได้ อาจจะเกิดการระเบิดขึ้นได้  หากวางโทรศัพท์มือถือไว้บริเวณคอนโซลหน้ารถ เมื่อเกิดการระเบิดก็จะพุ่งไปข้างหน้าให้กระจกเกิดความเสียหายได้


3. ผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิง
เช่น ไฟแช็ค ความร้อนภายในรถอาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการระเบิดสูงและก่อให้เกิดประกายไฟได้


4. ลูกโป่งสวรรค์
เนื่องจากถูกอัดด้วยก๊าซไฮโดรเจน พอระเบิดอาจจะติดไฟขึ้นในรถได้


5. น้ำหอมปรับอากาศ
น้ำหอมปรับอากาศประเภทเสียบเข้ากับช่องแอร์ มักได้รับความร้อนจากแสงแดดอยู่เสมอ อาจเกิดการละลายไหลเปรอะเปื้อนแผงบริเวณคอนโซลหน้ารถ ซึ่งหากทิ้งไว้นานอาจทำให้กลายเป็นรอยด่างที่ทำความสะอาดได้ยากอีกด้วย


6. ยา วิตามิน และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ
ยาเป็นสิ่งที่เสื่อมสภาพได้ง่ายตามอุณหภูมิความร้อนของสิ่งแวดล้อม กรณียาเสื่อมสภาพจะเกิดผลเสียในการทำให้ยาไม่ได้ผลในการรักษา โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น ความดัน ไขมัน เบาหวาน หรือยาที่จำเป็นในการช่วยชีวิตเช่น รักษาอาการหอบหืดกำเริบ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถควบคุมโรคได้ ส่วนวิตามินและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว หากมีส่วนผสมของวิตามินซีหรือสารต้านอนุมูลอิสระ ก็จะเสื่อมสภาพไวและอาจเปลี่ยนสภาพเป็นสารที่เป็นพิษต่อร่างกายในระยะยาวได้ ดังนั้นจึงควรจัดเก็บในกล่องหรือกระเป๋าให้มิดชิด และเลือกจอดรถในร่ม


6. น้ำแข็งแห้ง
ที่นำมาใส่ในกล่องโฟมเพื่อแช่เย็น เพราะเมื่อน้ำแข็งแห้งระเหิด จะกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องโดยสารหมดสติได้


7. ขวดพลาสติกใสที่มีน้ำเต็ม
ไม่ควรวางไว้ที่คอนโซลหน้ารถ  เพราะน้ำในขวดพลาสติกเมื่อเจอแสงอาทิตย์ส่องได้มุม จะเกิดการหักเหของแสงรวมเป็นจุดเดียว ก่อเพลิงไหม้ในรถได้


8. ยางลบดินสอ
เพราะมีสารในกลุ่ม Plasticizers เป็นตัวทำละลายพลาสติกที่ดีเยี่ยม จะคายสารเมื่อเจอความร้อน แม้จะไม่อันตรายแต่ก็ทำให้รถเสียหายได้ สามารถทำลายรถในส่วนของพลาสติกให้ละลายได้โดยง่าย เป็นรอยลึกชัดเจน 

 

การจอดรถตากแดดส่งผลต่อรถยนต์ ดังนี้ 

1. อุปกรณ์ที่เป็นยางจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว
เกิดการเสื่อมสภาพรวดเร็วขึ้นของอุปกรณ์ที่เป็นยางนั้น มีผลทั้งภายในและภายนอกรถ หากว่าเราจอดรถตากแดดไว้นานๆ และบ่อยครั้ง อุปกรณ์ที่เป็นยาง เช่น ยางที่ปัดน้ำฝนหน้ารถ ขอบยางรอบกระจก ยางหุ้มพวงมาลัย รวมถึงอุปกรณ์ตกแต่งที่เป็นยางจะได้รับผลกระทบจากการจอดรถตากแดดเช่นกัน


2. เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานสั้นลง
สาเหตุที่ส่งผลให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่สั้นลง ก็คือ การเจอกับความร้อนที่ร้อนจัดจากแสงแดด ในขณะที่เราจอดรถไว้กลางแดด


3. สีของตัวรถถูกทำลาย
การจอดรถกลางแสงแดดเป็นประจำนั้น จะมีส่วนที่ส่งผลให้สีของรถของเรานั้นซีดลง ซึ่งอาจจะเรียกได้ว่าการจอดรถตากแดดบ่อยๆ นั้น เป็นการทำลายคุณภาพสีของรถได้เลย


4. แอร์ทำงานหนัก
ความร้อนที่สะสมอยู่ภายในตัวรถจากการที่เราจอดรถไว้กลางแดดนั้น จะส่งผลให้แอร์ภายในรถทำงานหนักขึ้น เพราะต้องเร่งแอร์เพื่อลดความร้อนในรถ และการที่แอร์ทำงานหนักขึ้นนี้ก็อาจจะส่งผลให้เกิดการรั่วไหลของระบบท่อแอร์ได้


5. ฟิล์มกรองแสงเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ฟิล์มกรองแสงก็เช่นเดียวกัน กับอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะได้รับผลกระทบ หากว่าเรานั้นจอดรถกลางแดดบ่อยๆ  และครั้งละเป็นเวลานานๆ จะส่งผลให้ฟิล์มกรองแสงนั้นเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว หรือเริ่มมีสีออกสีม่วง โดยถึงแม้ว่าตัวฟิล์มกรองแสงนั้นจะมีคุณสมบัติช่วยกรองแสงได้ก็ตาม แต่ก็ถือเป็นปกติของสิ่งของทั่วไปที่ต้องมีการเสื่อมสภาพเช่นกัน รวมถึงตัวฟิล์มกรองแสงเองนั้นก็ไม่ได้ถูกออกแบบมา เพื่อเอาไว้ให้จอดรถทิ้งไว้นานๆ กลางแดด


6. เบาะหนังแห้งกรอบ
หากรถของพวกเราคนไหนมีเบาะภายในรถเป็นเบาะหนัง ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแดดเป็นอย่างยิ่ง  เพราะการจอดรถกลางแดดเป็นประจำนั้น จะส่งผลให้เบาะหนังภายในรถของเรานั้นแห้งกรอบและมีสีซีดหมองลงได้นั่นเอง


7. ระบบน้ำหล่อเลี้ยง เช่น น้ำกลั่นในแบตเตอรี่ น้ำระบบหล่อเย็น มีโอกาสที่จะระเหยกลายเป็นไอได้ อาจทำให้น้ำต่ำกว่าระดับขีดที่มีสัญลักษณ์ MIN ซึ่งต้องรีบเติมทันที เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโอเวอร์ฮีทได้ 


สิ่งที่ควรทำเมื่อต้องจอดรถตากแดด

ควรพยายามหาที่จอดในร่มเข้าไว้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่หากไม่สามารถหาที่จอดรถในที่ร่มควรปฎิบัติดังนี้

- ให้ติดแผ่นบังแดดไว้บริเวณกระจกรอบตัวรถ แผ่นบังแดดที่ใช้ได้ดีคือแผ่นบุอะลูมิเนียม สามารถสะท้อนแสงได้เป็นอย่างดี และแผ่นบังแดดที่สามารถพับเก็บได้ หรือใช้ผ้าคลุมรถควรเป็นผ้าร่มสีเทาหรือสีเงิน เพื่อช่วยสะท้อนแดดและความร้อน แต่ก็สามารถให้ลมผ่านเข้ามาได้

- แง้มกระจกเล็กน้อย ประมาณ 1-2 เซนติเมตร จะช่วยระบายอากาศไม่ให้ร้อนจนเกินไป ให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก  แต่ต้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย

 

รถยนต์ต้องหมั่นดูแลรักษาเพื่อให้อายุการใช้งานยาวนาน และควรเพิ่มความคุ้มครองให้รถจากภัยต่างๆ บนท้องถนน สินมั่นคง ประกันรถยนต์  มีแผนความคุ้มครองให้เลือกหลากหลาย สามารถเช็คเบี้ยประกันได้ก่อนล่วงหน้า แค่คลิก www.smk.co.th/premotor.aspx หรือ โทร. 1596  สินมั่นคงประกันภัย..ประกันรถ ประกันเวลา..

Photo source: freepix.com