ข่าวสารและบทความ

ประกันรถยนต์ : เอาตัวรอด! เมื่อรถลื่นไถลขณะฝนตก

ประกันรถยนต์ : เอาตัวรอด! เมื่อรถลื่นไถลขณะฝนตก

ช่วงฤดูฝนนี้ บ่อยครั้งที่การเกิดอุบัติเหตุมาจากถนนลื่นทำให้ควบคุมรถไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงที่ฝนเริ่มตกใหม่ 10 นาทีแรก รถจะมีโอกาสลื่นไถลมากที่สุด เพราะน้ำฝนจะชะล้างคราบดินและฝุ่นละอองที่ติดอยู่บนพื้นถนน ทำให้ถนนเต็มไปด้วยโคลนการยึดเกาะลดลง จนเกิดการลื่นไถลหรือการหมุนของรถได้ สินมั่นคง ประกันรถยนต์  จึงมีวิธีป้องกันและรับมือกับการลื่นไถลของรถ มาแนะนำกัน

 


การลื่นไถล คือ การที่รถไม่วิ่งไปตามทิศทางและควบคุมทิศทางไม่ได้ 

ปัจจัยที่มีผลให้รถเกิดอาการลื่นไถล

1. ความเร็วที่ใช้
2. สภาพของถนน 
3. สภาพอากาศในขณะขับรถ
4. สภาพของยาง
5. ทัศนวิสัยในการมองเห็น
6. ความสามารถในการขับขี่ของผู้ขับ
7. ระบบเบรก


สาเหตุของการลื่นไถล

1. มีน้ำปกคลุมผิวถนน
2. ใช้ความเร็วสูงไม่สอดคล้องกับสภาพผิวถนน
3. ใช้ความเร็วสูงแล้วหักพวงมาลัย
4. เหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงในทันทีทันใด
5. เบรกอย่างรุนแรงหรือเบรกกะทันหัน

 

 

การแก้ไขอาการลื่นไถล

เป็นเวลาเพียงแค่เสี้ยววินาทีในการแก้ไขสถานการณ์นี้ ดังนั้นเราควรป้องกันก่อนล่วงหน้าจึงจะดีที่สุด ด้วยการใช้ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อป้องกันการลื่นไถลในขณะถนนลื่น และอย่าลืมรัดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งเวลาขับ 

แต่หากรถเกิดลื่นไถลหรือเหินน้ำ ห้ามเหยียบเบรกจนล้อหยุดทันที เพราะจะทำให้รถพลิกคว่ำได้ วิธีแก้ไขรถลื่นไถลให้ถอนคันเร่ง และหักพวงมาลัยไปในทิศทางเดียวกับรถที่ไถล เมื่อรถตั้งลำได้แล้ว ค่อยบังคับพวงมาลัยคืนให้ตรง ระวังอย่าเหยียบเบรกในระหว่างที่รถกำลังลื่นไถล เพราะอาจทำให้รถเกิดพลิกคว่ำได้

 

เทคนิคในการขับรถในขณะฝนตกถนนลื่น

1. ขับรถด้วยความเร็วต่ำ ทำให้ยางมีการควบคุมและยึดเกาะถนนได้ดีขึ้น ควรใช้ความเร็วที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งไม่ควรเกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพื่อหลีกเลี่ยงการเหินน้ำของรถ ป้องกันการลื่นไถล

2. ช่วงฝนตกใหม่ถนนจะลื่นกว่าปกติ เพราะช่วงแรกๆ ที่ฝนตกจะมีโคลน ดินทรายที่มารวมตัวที่พื้นผิวถนน ทำให้ถนนลื่นได้ง่าย เราจึงต้องระมัดระวัง 

3. ควรทิ้งระยะห่างจากคันหน้าให้ห่างพอสมควร ไม่ควรขับใกล้เกินไป เว้นระยะราว 2 เท่าของระยะทิ้งห่างเมื่อขับรถในสภาพอากาศปกติ

4. ขับรถด้วยมือทั้งสองข้างเสมอ เพื่อให้รถอยู่ในการควบคุม

5. ระมัดระวังการขับขี่ของรถคันอื่นและอันตรายอื่นๆ รอบตัว  พยายามคาดการณ์สถานการณ์ที่อาจเป็นอันตราย ก่อนที่จะเกิดขึ้น

6.  ก่อนการเลี้ยวให้เบรกในขณะรถวิ่งเป็นเส้นตรงก่อนเลี้ยวเท่านั้น และให้ค่อยๆ เบรก อย่าเบรกในขณะเลี้ยว เพราะอาจทำให้รถลื่นไถลได้ ในขณะเลี้ยวให้ลดความเร็วลงก่อนที่จะเลี้ยวและรักษาความเร็วให้คงที่ตลอดการเลี้ยว และอย่าหมุนพวงมาลัยอย่างกะทันหัน

7. ตรวจสอบยางเดือนละครั้ง ดูสภาพดอกยาง ความลึกของดอกยาง ยิ่งมาก ยิ่งสามารถรีดน้ำออกได้มากขึ้น ตรวจสอบแรงดันลมยางให้เหมาะสม ความดันที่ต่ำกว่าค่าแนะนำ 30% จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเหินน้ำได้สูงมาก  เลือกยางที่ให้การยึดเกาะถนนสูงสุดในสภาพอากาศที่เปียกชื้น เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยในช่วงหน้าฝน 

8. ลดความเร็วลงเมื่อเข้าใกล้แอ่งน้ำขนาดใหญ่ หรือบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง

 

การขับขี่ขณะฝนตกเราต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น เตรียมพร้อมรับทุกสถานการณ์บนท้องถนน 
ด้วยการเลือกประกันรถยนต์ที่จะช่วยดูแลคุณและรถ สามารถตรวจสอบเบี้ยก่อนซื้อประกันได้ง่าย 
แค่ คลิก  www.smk.co.th/premotor.aspx หรือ โทร. 1596  

ที่มา : thairath.co.th
Photo source: pexels.com