ประกันสุขภาพ : “มะเร็งผิวหนัง” ภัยร้ายจากแสงแดด
ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ระบุว่าฤดูหนาวในปีนี้จะมีอากาศหนาวเย็นกว่าทุกปี โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 20-21 องศาเซลเซียส หลายคนอาจชอบใจว่าคงได้ออกไปเดินเล่นตากอากาศแบบฟินๆ และขุดคอลเล็กชั่นหน้าหนาวมาใส่อวดเรียกยอดไลก์กันไปรัวๆ
แต่เดี๋ยวก่อน…แม้อากาศในหน้าหนาวจะเหมาะกับการออกเดินเล่นตากแดดเพียงใดก็ตาม แต่แสงแดดของฤดูนี้ ก็มีฤทธิ์ร้ายแรงไม่น้อยไปกว่าแดดในฤดูร้อนจนเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเกิดโรค “มะเร็งผิวหนัง” กันเลยทีเดียว สินมั่นคง ประกันสุขภาพ จึงมีข้อมูลสำคัญมาฝากกัน
แสงแดดที่ตกถึงโลกนั้น จะมีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกันคือ
• รังสียูวีบี (UVB) ช่วงคลื่นระหว่าง 290-320 นาโนเมตร
• รังสียูวีเอ (UVA) ช่วงคลื่นระหว่าง 320-400 นาโนเมตร
• รังสีที่มองเห็นด้วยตาเปล่า (Visible Radiation) ช่วงคลื่นระหว่าง 400-760 นาโนเมตร
หากเป็นอากาศในหน้าหนาว รังสียูวีบีจะไม่ส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อผิวของเราได้มากนัก จนเกิดรอยไหม้ให้เห็นเท่ากับหน้าร้อน แต่อย่างไรก็ตาม รังสียูวีเอยังคงมีผลทำลายผิวหนังของเราได้เท่าเดิม และมีฤทธิ์ทะลุทะลวงลึกถึงผิวชั้นหนังแท้ได้ไม่น้อยไปกว่าฤดูอื่น ๆ เลยทีเดียว
อะไรบ้างที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนัง
แม้ปัจจุบันอาจยังไม่พบสาเหตุที่แท้จริงของการเป็นโรค “มะเร็งผิวหนัง” แต่ก็พบว่ามีหลายปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคได้เช่นกัน
• ได้รับรังสี UV จากแสงแดด ทั้ง UVA และ UVB อย่างต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะแดดในช่วงเวลา 09.00 – 16.00 น. จะเป็นเวลาที่พบรังสี UV ปริมาณเยอะที่สุด
• ความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังที่ผิดปกติ จนมีผลทำให้บางคนมีผิวไวต่อแสงแดด เกิดผิวคล้ำเสียได้ง่าย และการมีผิวสีแทนนั้นไม่ได้หมายความว่าเป็นผิวที่มีสุขภาพดี แต่กลับเป็นสัญญาณที่บอกว่าเซลล์ของผิวหนังได้ถูกรังสี UV ทำลายไปเรียบร้อยแล้วด้วยการสร้างเม็ดสีเพิ่มขึ้น
• เชื้อชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชาติตะวันตกที่พบการเกิดโรคบ่อย เพราะมีเม็ดสีที่ผิวหนังน้อย ความสามารถในการป้องกันเซลล์ผิวหนังจากแสงอัลตราไวโอเลตจึงน้อยกว่าคนผิวคล้ำ
• เป็นไฝ ปาน หรือแผลเรื้อรังที่ผิวหนัง จนกลายพันธ์เป็นเซลล์มะเร็ง
• ผิวหนังได้รับสารเคมีบางอย่าง หรือรังสีเอกซเรย์ในปริมาณที่สูงเกินไปติดต่อกันเป็นเวลานาน
แม้ปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังกับบุคคลกลุ่มเสี่ยงได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เกิดมะเร็งผิวหนังในกลุ่มคนที่มีสีผิวคล้ำเลย โดยเฉพาะมะเร็งผิวหนังบางชนิดยังสามารถเกิดขึ้นในบริเวณใดของร่างกายก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นผิวหนังปกติ ไฝ หรือปานที่กลายเป็นมะเร็งก็ตาม
ผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนัง อาการเป็นอย่างไร
อาการของผู้ป่วยโรคมะเร็งผิวหนังจะไม่มีอาการเฉพาะที่เห็นได้เด่นชัดและอาการอาจแตกต่างออกไปในแต่ละบุคคล หรืออาจปรากฏในรูปของแผลเรื้อรัง ไฝ หรือปานทั่วไป ได้แก่
• มีก้อนเนื้อหรือปานโตขึ้นผิดปกติบริเวณผิวหนัง ไม่มีอาการกดเจ็บ โดยเฉพาะบริเวณที่โดนแสงแดดอยู่เป็นประจำ
• มีแผลลุกลาม เรื้อรัง จนบางครั้งเกิดเป็นต่อมน้ำเหลืองโตใกล้กับบริเวณที่เป็นแผล หรือโตจนคลำพบก้อนมะเร็งได้
• มีไฝหรือปานโตผิดปกติไปจากเดิม มักจะกินลึกลงไปในผิวหนังหรือแตกเป็นแผล ขอบไม่เรียบ
หากสังเกตพบว่า ผิวหนังของคุณมีลักษณะผิดปกติไปจากเดิม ควรรีบพบแพทย์เพื่อขอรับคำวินิจฉัยโดยเร็ว เพื่อหาทางรักษาไม่ให้เชื้อมะเร็งลุกลามไปกว่าเดิม ค้นหารายชื่อโรงพยาบาลพันธมิตรของสินมั่นคงฯ คลิก www.smk.co.th/hospital.aspx หรือหากไม่พบเชื้อมะเร็งก็สามารถหันกลับมาดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคมะเร็งผิวหนังได้มากขึ้น แม้ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีป้องมะเร็งผิวหนังได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ แต่ทางที่ดีที่สุดคือหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดโรค ได้แก่
• หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดเป็นเวลานาน
• หลีกเลี่ยงการอาบแดด
• สวมหมวก ใส่เสื้อป้องกัน เมื่อจำเป็นต้องออกแดด
• ทาครีมกันแดดที่สามารถปกป้องรังสี UVA และ UVB ที่มีค่า SPF15 ขึ้นไป ก่อนออกแดด ค้นหาสุดยอดครีมกันแดดของปี 2019 คลิก https://my-best.in.th/1347/
สินมั่นคงประกันภัย พร้อมลดความเสี่ยงทางการเงินให้คุณ ทันทีที่ตรวจพบโรคมะเร็งครั้งแรก จ่ายทันทีเต็มวงเงินทุนประกัน ผู้เอาประกันภัยสามารถนำไปใช้เพื่อเป็นเงินชดเชยรายได้ในขณะเจ็บป่วยหรือพักฟื้น โดยไม่จำกัดวิธีการรักษา หรือเป็นทุนสำรองสำหรับครอบครัวในกรณีที่เสียชีวิต ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องตรวจสุขภาพก่อนทำประกันภัย สนใจรายละเอียด คลิก www.smk.co.th/prehealth.aspx หรือ โทร.1596 ตลอด 24 ชั่วโมง
สินมั่นคงประกันสุขภาพ ...เราประกัน คุณมั่นใจ…